พูดถึงข่าวฝากฝั่งอเมริกา อังกฤษกันบ่อยแล้ว คราวนี้เรามาติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของการซื้อขายกิจการดอตคอมในเอเชียแปซิฟิกกันบ้าง ล่าสุด Detik.com เว็บไซต์ข่าวที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ถูก Para Group เข้าซื้อกิจการไปเมื่อ 1 กรกฏาคมที่ผ่านมา หลังจากคุยกันมาร่วม 2 ปี โดยทาง Para Group เข้าไปขอซื้อหุ้นต่อจาก? Tiger Investment (ซึ่งถือหุ้น 39%) และกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Mitsui & Co (ที่ถือเล็กๆ อยู่ 2%)
Detik.com เป็นเว็บที่ใหญ่อันดับ 9 ของอินโดนีเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2541 โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทคนปัจจุบัน Abdul Rahman และบรรณาธิการบริหาร Budiono Darsono ด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 11,700 เหรียญ หรือประมาณ 354,337 บาท
ทางด้าน Para Group เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ CT Corporation ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 24 ปีก่อนโดย Chairul Tanjung ประกอบธุรกิจด้านบริการทางการเงินภายใต้ชื่อ Mega Corpora ธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติภายใต้ชื่อ CT Global Resources และธุรกิจด้าน media, lifestyle และ entertainment ซึ่งขานี้อยู่ภายใต้ชื่อ Trans Corpora ซึ่งทาง Para Group จะเอาเว็บไซต์ Detik ไปอยู่ภายใต้ขานี้นี่เอง ส่วนมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดนั้น ทางบริษัทยังกล่าวว่าอยู่ในขั้นตอนการทำ due-diligence หรือประเมินและต่อรองราคาอยู่ แต่ถ้ากล่าวอ้างตามสื่อใหญ่ของอินโดนีเซียอย่าง Jakarta Globe ก็ระบุว่าราคา “ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ” ส่วนเว็บไซต์ท้องถิ่น Bisnis ที่นำเสนอข่าววงในก็กล่าวว่าอาจขึ้นไปถึง 60 ล้านเหรียญ หรือราว 1,800 ล้านบาท แถมแหล่งข่าวของ Bisnis ยังระบุว่าซื้อขายจบกันแล้วด้วยซ้ำ ตอนนี้กำลังดำเนินการทางกฏหมายเท่านั้นเอง
Para Group ขยายการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ฮ่องกง
สถิติของ Detik น่าสนใจครับ เขาเป็นเว็บไซต์ท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุด เพราะอันดับ 1 คือ Facebook ที่แซง Google ไปแล้ว นอกนั้นก็เป็นบริการต่างชาติเกือบหมด ในอินโดนีเซียเป็นสวรรค์ของนักลงทุนจากซิลิค่อน วัลเล่ย์หลายคน แม้แต่ผู้ก่อตั้ง Facebook ที่ทำงานร่วมกับ Mark Zuckerberg อย่าง Eduardo Saverin ก็ยังเล็งๆ ตลาดนี้อยู่ เพราะศักยภาพตลาดของอินโดนีเซียสูงมาก แล้วสำหรับเมืองไทยล่ะ เว็บไซต์ไทยที่ใหญ่ที่สุดก็มี Sanook, Mthai, Kapook บ้างก็ถูกซื้อไปแล้ว บ้างก็ยังมีอธิปไตยอยู่ หรือว่าตอนนี้เป็นจังหวะที่นักลงทุนท้องถิ่นควรจะหันมาลงทุนในธุรกิจดอตคอมกันจริงจังมากขึ้นเสียที?
ที่มา: e27