เป็นที่ชัดเจนว่าการมาของ Apple Pay คงจะไม่เป็นที่ถูกใจของ PayPal เพราะเพียงแค่เปิดตัวเท่านั้น ก็ทำให้ PayPal นั่งไม่ติดเก้าอี้ ต้องออกมาปล่อยหมัดฮุคหวังสกัดดาวรุ่ง
ในสัปดาห์นี้ PayPal ฉวยโอกาสที่ Apple Pay ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบตีพิมพ์โฆษณาท้าชนแบบตรงไปตรงมาลงในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่หลายเจ้า ทั้ง New York Times, USA Today และ San Francisco Chronicle โดยโฆษณาดังกล่าวมี copy ว่า
“เราต้องการให้เงินของเราปลอดภัยมากกว่ารูป Selfies”
เหมือนจะเป็นการพูดอ้อมๆ ว่าแค่รูปถ่ายยังเก็บไว้ไม่ได้เลย เรื่องเงินก็คงไม่ต้องพูดถึง อะไรประมาณนั้น ถือว่าเป็นการกรีดแผลสดของ Apple แบบเต็มๆ หลังจากที่มีข่าวภาพลับของเซเลบหลายคนถูกมือดีขโมยจาก iCloud แล้วน้ำมาปล่อยในอินเทอร์เน็ต งานนี้ทำเอา Apple ต้องออกมาประกาศว่าจะดูแลความปลอดภัยของ iCloud ให้มากขึ้น
Anuj Nayar ผู้อำนวยการอาวุโสของ PayPal ยอมรับตรงๆ ว่า โฆษณาชิ้นนี้ก็ตั้งใจพาดพิง Apple นั่นแหละ และตัวเขาเองก็วิจารณ์ Mobile Payment จาก Apple แบบใส่ไม่ยั้ง
“สิ่งที่ทุกคนกำลังพูดถึงมันก็คือพรีเซนเทชั่น 10 นาทีที่พูดในสิ่งที่คนฟังอยากจะฟัง ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยที่เหลือนั่นล่ะคือเรื่องที่น่าเป็นห่วง ส่วน NFC ที่เป็นหัวใจของ Apple Pay ก็เป็นเทคโนโลยีอายุ 10 ปีที่ไม่มีใครใช้ แต่ถ้ามันกลายเป็นที่นิยม PayPal ก็จะปรับตัวให้เข้ากับมัน”
หลังจากที่ Apple จัดอีเวนต์ใหญ่เปิดตัวสินค้าเมื่อสัปดาห์ก่อน ดูเหมือนว่าผู้เล่นในอุตสาหกรรม Mobile Payment หลายๆ เจ้าจะออกมาแสดงท่าที่เป็นมิตรกับ Apple Pay เช่น Square ออกมาให้ข่าวว่าการที่ Apple ลงมาเล่นในตลาด Mobile Payment นี้ถือว่าเป็นโอกาสที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ Softcard ก็บอกว่าขณะนี้พวกเขาจับมือร่วมงานกับ Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สำหรับ PayPal
Nayar ได้ให้สัมภาษณ์กับ Mashable หลังจบงานอีเวนต์ของ Apple ว่า “ไม่คิดว่า Apple จะทำให้เกิดอะไรใหม่ๆ ในแง่ของ Payment เรายังคงพยายามที่จะหาสิ่งใหม่ๆ ที่จะมาเป็น Game Changer แต่ไม่เห็นอะไรสักอย่างที่จะมาจาก Apple เพราะทั้งหมดมันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้น”
มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าหมัดเด็ดของ PayPal จะได้ผลมากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ หุ้น eBay บริษัทแม่ของ PayPal ตกลงมาเรื่อยๆ หลังอีเวนต์ของ Apple เพราะนักลงทุนเชื่อว่า Apple น่าจะสร้างผลกระทบได้มากในระบบบริการชำระเงิน…ก็ไม่รู้สินะ