สมาร์ทวอทช์ที่มี่ชื่อเสียงอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะเกิดจากโครงการระดมทุน (crowd funding) ของ Kickstarter ก็คือ pebble และด้วยตอนนี้ตลาดมีคู่แข่งเยอะขึ้น ทำให้ pebble ต้องปรับตัวเองให้สามารถสู้กับรายใหญ่ได้ จึงมีการปรับลดราคาครั้งใหญ่
นับจากตั้งแต่ช่วงเปิดตัว Pebbles นั้นถูกตั้งราคาไว้ที่ 150 เหรียญสหรัฐฯ (4,800 บาท) และรุ่นสายเหล็ก (pebble steel) ที่เปิดตัวไปไม่นานอยู่ที่ 250 เหรียญสหรัฐฯ (8,000 บาท) ตอนนี้ถูกปรับราคาลงรุ่นละ 50 เหรียญสหรัฐฯ คงเหลือเพียง 99 เหรียญสหรัฐฯ หรือเพียง 3,200 บาท และ 199 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 6,400 บาทสำหรับรุ่นสายเหล็ก โดยมีผลทันทีการลดราคาครั้งนี้เป็นการลดครั้
งแรกเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่เริ่มเปิดขายสมาร์ทวอทช์ตัวนี้
และการลดครั้งนี้คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเอามาฟัดกับผู้ทำสมาร์ทวอท์ชหน้าใหม่ (แต่รายใหญ่) ที่มีเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Android Wear ที่เจ้าต่างๆ เริ่มทำมาขายแล้วอย่าง Motorola, Samsung รวมไปถึง Apple ที่ทำ Apple Watch มาขายในต้นปี 2015 ด้วย
อีกนัยนึงก็เป็นช่วงใกล้สิ้นปี ช่วงคนซื้อของให้กัน 1 ในตัวเลือกก็น่าจะมีสมาร์ทวอทช์เป็นตัวเลือก การที่ลดราคายิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้นว่า pebble จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ทันทีด้วยราคาต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งก็ถือได้ว่าคุ้มค่าตัวมากๆ กับความสามารถของมัน ที่สามารถเปลี่ยนหน้าจอและลงแอปเพื่อใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟน รวมทั้งจุดเด่นที่ยังคงเป็นจุดที่ใครยังไม่สามารถโค่นได้ นั่นก็คืออายุการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้งอยู่ได้ที่ 7 วัน ในขณะที่เจ้าอื่นๆ ในเวลานี้จะอยู่ได้แค่ 1-2 วันเท่านั้น
ด้านยอดขาย ทางผู้สื่อข่าวของ USA Today พยายามถามกับ Eric Migicovsky CEO ของ pebble ถึงยอดขาย เขาไม่ได้บอกตัวเลขที่แน่นอน แต่บอกว่ายอดสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งอ้างถึงผลสำรวจกับผู้ใช้งาน pebble โดยพบว่ามากกว่า 75% ใส่ pebble มากถึง 20-30 วันต่อเดือน ซึ่งก็เป็นไปตามความสามารถของมันที่อยู่ได้ทนและนาน ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ
ในเมืองไทย เพิ่งจะมีผู้นำเข้า pebble มาขายอย่างเป็นทางการในปีนี้ (รวมไปถึงของหิ้วที่มีมาสักพักแล้ว) โดยนำเข้าเฉพาะรุ่นเล็ก ตั้งราคาไว้ที่ 5,990 บาท ใครจะซื้อช่วงนี้ก็ระงับรอการปรับราคาไทยหน่อยก็ดีครับ หรือถ้าไม่คิดอะไรมากก็สั่งผ่านออนไลน์เลยก็ได้ ไม่คิดค่าส่ง แต่จะมาโดนภาษีนำเข้าประมาณนึง รวมๆ ก็น่าจะตกอยู่ที่ 4,xxx บาทครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าให้ถามความคิดผมแล้ว pebble ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีมากในราคาที่สบายกระเป๋าครับ
แถมท้ายด้วยการปรับรูปแบบเว็บไซต์ของ pebble เป็น 8 bits พร้อมแอบแซะรายใหญ่เล็กน้อย แฮะๆ