นักการตลาดวันนี้รู้ดีว่า “สื่อโซเชียล” นั้นเป็นโอกาสทองในการเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ เพราะเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลกในวันนี้ต่างใช้งานโซเชียลมีเดีย โอกาสนี้ยิ่งใหญ่มากขึ้นต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็จริง แต่โอกาสทองจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นหากเราเลือกใช้ช่องทางสื่อโซเชียลที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายตัวจริง
4 ข้อพิจารณาพื้นฐานสำหรับการเลือกใช้ช่องทางสื่อโซเชียลของแบรนด์ประกอบด้วยการเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย การจับคู่ช่องทางกับกลยุทธ์ที่วางไว้ให้เหมาะสม การให้ความสนใจลงทุนกับการไลฟ์สด และที่ขาดไม่ได้คือการวาง Twitter เป็นช่องทางสำหรับดูแลลูกค้า ซึ่งข้อหลังจำเป็นมากสำหรับแบรนด์ที่มีกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ
1. รู้จักกลุ่มผู้เข้าชม
หากประเมินในภาพรวม เราจะพบว่า Twitter และ Facebook มุ่งเน้นไปที่ข้อความและรูปภาพ ขณะที่ Instagram, Pinterest และ Snapchat เน้นวางตัวเป็นช่องทางหลักให้ผู้ใช้มองเห็นสินค้าหรือเข้าถึงประเด็นได้ในการมองปราดเดียว
ดังนั้นอย่าลืมใช้ข้อมูลประชากรบนโซเชียลมีเดีย และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกเครือข่ายทางสังคมที่ดีที่สุดสำหรับการโปรโมทแบรนด์ ตัวอย่างเช่น ราว 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ Instagram อยู่ระหว่างอายุ 18 ถึง 29 ปี ดังนั้น Instagram เป็นรูปแบบที่เหมาะสำหรับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เน้นเยาวชน
ในทำนองเดียวกัน Snapchat เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ Millennial และ Gen Z โดย Snapchat สามารถเข้าถึง 41 เปอร์เซ็นต์ของวัยรุ่นและวัยทำงาน 18 ถึง 34 ปีทุกคนในสหรัฐอเมริกาทุกวัน จุดนี้ทำให้ 71 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ Snapchat มีอายุต่ำกว่า 34 ปี
2. จับคู่ช่องทางกับกลยุทธ์
การจัดการโซเชียลที่ดีจำเป็นต้องมีการวางแผนกลเม็ดเด็ด รวมถึงทีมปฏิบัติงานที่เปี่ยมด้วยทักษะ และกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่วัฒนธรรมและคาแรกเตอร์ของช่องทางโซเชียลนั้น หากมีอย่างน้อย 3 สิ่งนี้ แบรนด์จะเสี่ยงน้อยลง (ความเสี่ยงได้รับผลลัพธ์ที่ไม่ดีเมื่อโพสต์แบบสุ่มหรือกระจายไปทั่วช่องทางต่าง ๆ)
ตัวอย่างเช่นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จงดงามใน Instagram นั้นไม่ได้ทำเพียงแค่เผยแพร่ภาพที่น่าสนใจเท่านั้น แต่โพสต์จะต้องมี “เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนในการสร้างสรรค์ภาพและการจัดการชุมชนที่มีประสิทธิภาพ”
3. ลงทุนในสตรีมสด
อีกเรื่องที่นักการตลาดไทยควรรู้ คือผู้ใช้นิยมชมวิดีโอสด โดยระยะยาวการชมวิดีโอสตรีมสดคิดเป็นสัดส่วนนานกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับวิดีโอที่บันทึกไว้แล้ว สะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความนิยมของ Facebook Live ที่เพิ่มขึ้น 330 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016
ความเป็นไปได้ในการโปรโมทแบรนด์ผ่านวิดีโอสตรีมมิงแบบสดนั้นมีมากมาย ทั้งโฆษณา กิจกรรมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และการสาธิต ทั้งหมดนี้คุ้มค่าในการลงทุนเพื่อให้การถ่ายทอดสดมีความเป็นมืออาชีพ
4. Twitter เหมาะสำหรับดูแลลูกค้า
Twitter ถูกยอมรับเป็นช่องทางการบริการลูกค้าที่สำคัญ การสำรวจพบว่าองค์กรที่ใช้ Twitter เพื่อติดต่อกับลูกค้าที่ไม่พอใจจะเห็นความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ด้านล่าง
ที่มา: PRDaily