Pickle แอปพลิเคชัน Influencer Marketing Platform พื้นที่เชื่อมต่อแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์อย่างจริงใจ ผลงานการพัฒนาจาก Rabbit’s Tale ล่าสุดมีการอัปเดตฟีเจอร์ ด้วยการเพิ่มแพลตฟอร์ม TikTok เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างแคมเปญให้กับแบรนด์
เปิดโอกาสให้อินฟลูเอนเซอร์บนแพลตฟอร์ม TikTok สมัครเลือกร่วมงานกับแบรนด์ที่สนใจ ตอบรับเทรนด์ TikTok ที่กำลังมาแรง พร้อมเครื่องมือสนับสนุนครบครัน ให้แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์สามารถทำงานร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้นจนจบแคมเปญได้ง่ายภายในแอปฯ เดียว
“หลังการรีแบรนด์สู่ Rabbit’s Tale ในฐานะ Experience Agency เรายังคงมุ่งมั่นที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ประกอบเข้ากับดาต้า และเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหา ส่งเสริมการทำงาน และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
ซึ่ง Pickle เป็นหนึ่งในผลงานที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการแก้ pain point ให้แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์สามารถทำงานร่วมกันได้ง่าย และตอบโจทย์ความต้องการซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย โดยเราเลือก Instagram เป็นแพลตฟอร์มแรก เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่มีการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) มากที่สุด” สุนาถ ธนสารอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Rabbit’s Tale กล่าวถึงที่มาของการสร้าง Pickle
“หลังเปิดให้ใช้บริการ Pickle ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ จนมียอดอินฟลูเอนเซอร์สมัครเข้าร่วมแคมเปญกับแบรนด์กว่า 120,000 ครั้งตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อที่จะตอบรับเทรนด์การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และขยายให้ Pickle สามารถตอบสนองความต้องการได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงเพิ่ม TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เข้ามาเป็นอีกทางเลือกให้กับนักการตลาด และแบรนด์ในการทำแคมเปญ”
รุ่งโรจน์ ตันเจริญ Head of Rabbit X, Co-founder of Rabbit’s Tale พูดถึงเทรนด์และความนิยมของ TikTok ในช่วง 2-3 ปี
ที่ผ่านมา ซึ่ง TikTok มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่นักการตลาดต้องให้ความสนใจ ปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า1,000 ล้านคน สำหรับผู้ใช้ในไทยเฉพาะที่อายุมากกว่า 18 ปี ก็มีมากถึง 35.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 63.6% ของประชากรทั้งประเทศที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
“แพลตฟอร์ม TikTok กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยรูปแบบวิดีโอขนาดสั้นที่มีเนื้อหาสนุกสนาน เข้าใจง่าย ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้เราเห็นว่าการใช้อินฟลูเอนเซอร์บน TikTok ค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากทีเดียว ประกอบกับปัจจุบันแบรนด์ต่าง ๆ เองก็เริ่มหันมาทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์บน TikTok กันมากขึ้น
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายด้านการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์บน TikTok เพิ่มขึ้นจนสามารถแซง YouTube ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจาก Instagram ได้ภายใน 2 ปี จึงเป็นเหตุผลที่ Pickle เลือกนำ TikTok เข้ามาเป็นแพลตฟอร์มถัดไปในการช่วยแบรนด์ทำแคมเปญการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์” รุ่งโรจน์ กล่าว
สำหรับแพลตฟอร์ม TikTok ที่เพิ่มเข้ามา Pickle เปิดรับอินฟลูเอนเซอร์ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Nano Micro หรือ Macro เพียงมียอดผู้ติดตามตั้งแต่ 5,000 แอคเคาท์ขึ้นไป อินฟลูเอนเซอร์ยังสามารถเลือกความสนใจเฉพาะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้พวกเขาได้แมทช์กับแบรนด์ที่อยากร่วมงาน ในขณะที่แบรนด์ก็สามารถเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Pickle ยังพยายามผลักดันอินฟลูเอนเซอร์ให้ผลิตชิ้นงานคุณภาพมากขึ้น ด้วยการเพิ่มการมองเห็นให้กับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผลงานโดดเด่นในแต่ละหมวดหมู่
“Pickle ยังคงตั้งใจที่จะช่วยแบรนด์ในการค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ ตามหา KOL ที่ตรงใจ และตอบโจทย์แคมเปญได้มากยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Influencer Analysis แสดงข้อมูลเชิงลึกของอินฟลูเอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Active Followers, ค่า Engagement เฉลี่ย รวมไปถึงผลงานที่เคยรีวิวบน Pickle เพื่อเป็นตัวช่วยลดขั้นตอนการทำงานให้แบรนด์สามารถวิเคราะห์ และตัดสินใจเลือกได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น แบรนด์ยังสามารถพูดคุยกับอินฟลูเอนเซอร์ จัดการแคมเปญ ติดตามผลลัพธ์แบบ Real-time ไปจนถึงวิเคราะห์ผลแคมเปญผ่านฟีเจอร์ Campaign Analysis ได้ครบ จบ ภายในแอปฯ เดียว” รุ่งโรจน์ กล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบัน Pickle ยังเปิดให้แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์สามารถใช้บริการครบทุกฟีเจอร์ อย่างเต็มรูปแบบได้ฟรี ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pickle.co.th
ดาวน์โหลด Pickle สำหรับแบรนด์ ได้ที่: Pickle for brand และ Pickle สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ ได้ที่: Pickle for Influencer