แทนที่จะเป็นตารางราคาตายตัว Pinterest หันมาเปิดให้นักโฆษณาสามารถเสนอราคาเพื่อประมูลชิงพื้นที่โฆษณาบางส่วนมาระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุด Pinterest ขยายธุรกิจโฆษณาผ่านระบบประมูลให้ครอบคลุมโฆษณาหลากรูปแบบมากขึ้น ทำให้ Pinterest ถูกมองว่ากำลังพิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็นว่า Pinterest ก็เป็นพื้นที่โฆษณาที่ให้ความคุ้มค่าไม่แพ้รายใหญ่อย่าง Google
การเปิดให้นักโฆษณาซื้อโฆษณารูปแบบใหม่ผ่านการประมูลครั้งนี้ของ Pinterest มองเหมือนการถอดแบบจากบริการของ Google อย่าง Display Network ซึ่งเปิดให้นักการตลาดสามารถเสนอราคาซื้อโฆษณาแบบ cost-per-impression ที่เน้นการดึงความสนใจจากผู้ชม โดยไม่เน้นเรื่องการคลิกหรือการแชร์ โดยการซื้อโฆษณา CPM ผ่านระบบประมูลเริ่มเปิดให้บริการในสหรัฐฯและอังกฤษแล้วตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สรุปคือ วันนี้นอกจากแบรนด์จะสามารถซื้อโฆษณาแบบ cost-per-click และ cost-per-engagement ผ่านระบบประมูล แต่นักโฆษณาจะสามารถซื้อโฆษณา CPM ผ่านระบบประมูลของ Pinterest ได้เช่นกัน โดยโฆษณา CPM จะสามารถปรากฏบนพื้นที่ใดก็ได้ทั้งส่วนผลเสิร์ช พื้นที่ฟีดข่าวในหน้าโฮมและหน้าหมวด
Pinterest เชื่อว่ารูปแบบบริการนี้จะทำให้แบรนด์มีทางเลือกในการซื้อโฆษณากับบริาัทมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา การซื้อโฆษณา CPM บนราคาที่ตายตัวหรือ fixed price นั้นอาจทำให้แบรนด์มีข้อจำกัดในการตัดสินใจ ทำให้จำเป็นต้องยึดติดกับการโฆษณาแบบ CPC หรือ CPE จนไม่สามารถลงโฆษณาเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
ขณะเดียวกัน Pinterest ยังเพิ่มคุณสมบัติ Frequency Capping เพื่อให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกว่าโฆษณานั้นตามหลอกหลอนผู้ใช้ทุกที่ตลอดเวลา โดยนักการตลาดสามารถควบคุมความถี่ในการแสดงโฆษณานั้นได้ด้วยตัวเอง
แบรนด์อเมริกันอย่าง Home Depot, JCPenney และ General Mills คือพันธมิตรผู้ทดสอบบริการล่าสุดของ Pinterest โดยขณะนี้ นักการตลาดในสหรัฐฯและอังกฤษสามารถใช้เครื่องมือโฆษณานี้ได้แล้วที่ระบบลงโฆษณาด้วยตัวเองของ Pinterest (self-serve platform) ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Ads Manager
ที่มา : Marketingland