วงในเผย Playboy Enterprises กำลังเตรียมขายกิจการหลังประกาศหยุดเผยแพร่ภาพนู้ดอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2016 สื่อวิเคราะห์นี่คือสัญญาณล่าสุดของโลกสิ่งพิมพ์ที่กำลังมืดมนลงไปทุกที คาด Playboy จะหันไปเอาดีเรื่องการขายสิทธิ์การใช้ชื่อแบรนด์แทน
ทุกวันนี้ ข่าวการปิดตัวลงของหนังสือพิมพ์อายุหลายสิบหรือร้อยปีนั้นมีให้เห็นจนชินตา Playboy อาจเป็นแบรนด์ล่าสุดที่กำลังเดินตามเส้นทางนี้ ล่าสุดมีรายงานว่า Playboy Enterprises ต้นสังกัด Playboy กำลังหาทางขายกิจการ โดยจะผันตัวจากการเป็น publisher ผู้ตีพิมพ์และจำหน่ายนิตยสารผู้ชายชื่อก้องโลก มาเป็นบริษัทที่จำหน่ายสิทธิ์หรือ licensing company เพื่อให้ผู้สนใจมาซื้อชื่อ Playboy ไปใช้ตามประเภทธุรกิจที่หลากหลาย
ข่าวลือนี้เกิดขึ้นหลังจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Playboy ประกาศว่าจะยุติการโชว์ภาพเปลือยนางแบบตั้งแต่ฉบับเดือนมีนาคม 2016 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนแผนธุรกิจบริษัทที่เกิดขึ้นตามยุคสมัยซึ่งใครๆก็สามารถชมภาพปลุกใจเสือป่าได้บนโลกออนไลน์
การประกาศครั้งนี้ยังเป็นการต่อยอดจากการประกาศในเดือนมกราคม ซึ่ง Playboy ระบุว่าได้จำหน่ายสถานบันเทิง Playboy Mansion ในลอสแองเจลิสซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อตั้ง Hugh Hefner ที่สามารถจัดงานปาร์ตี้พร้อมรับรองเหล่าเซเลบมากมายด้วยราคา 200 ล้านเหรียญสหรัฐเรียบร้อย
การประกาศขายสินทรัพย์เหล่านี้ได้รับความสนใจมาก เนื่องจาก Playboy เป็นนิตยสารสำหรับผู้ชายเก่าแก่ซึ่งเผยแพร่ฉบับแรกในช่วงที่ Dwight D. Eisenhower เป็นประธานาธิบดี (ปี 1953) ครั้งนั้นภาพสุดเซ็กซีของมาริลิน มอนโร ฉีกทุกกฎระเบียบของสังคมยุคนั้นจนกลายเป็นที่ฮือฮา อย่างไรก็ตาม ยอดขายของ Playboy ลดลงไปมากจากช่วงรุ่งเรืองสุดขีดคือฉบับเดือนพฤศจิกายน 1972 ที่เคยทำสถิติยอดขายเกิน 7 ล้านเล่ม เหลือเพียงประมาณ 8 แสนเล่มเท่านั้นในปัจจุบัน
เพื่อต่อสู้กับกระแสสังคมออนไลน์ Playboy ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการลดความแรงของเนื้อหาปลุกใจเสือป่าตั้งแต่ช่วงปลายปี 2014 บนเป้าหมายให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านที่กว้างกว่าเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Playboy สามารถลดอายุเฉลี่ยของผู้เข้าชมเว็บไซต์ Playboy ได้จาก 47 ปี มาเป็น 30 ปี จุดนี้ข้อมูลระบุว่าการปรับเนื้อหาของ Playboy ทำให้ยอดผู้เข้าชมต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านมาเป็น 16 ล้านวิวด้วย
อย่างไรก็ตาม Playboy พยายามผันตัวมาเป็นบริษัท brand-management company มาตลอดตั้งแต่ปี 2011 เพื่อให้ตัวเองมีรายได้จากการเก็บค่าใช้โลโก้กระต่าย Playboy บนสินค้าอย่างเครื่องประดับหรือโคโลจ์น ทั้งหมดทั้งปวง Wall Street Journal เชื่อว่า Playboy จะสามารถจำหน่ายธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์อย่างเต็มตัวในมูลค่ามากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังไม่มีการยืนยันใดๆในตัวเลขนี้
ที่มา : AdAge