ปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตดูเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป จนบางครั้งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการใช้ชีวิตคนในปัจจุบันไปแล้วด้วยซ้ำ และเมื่อมีคนเข้ามาสู่โลกอินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นและดึงดูดให้คนสนใจได้มาก เพราะสิ่งนั้นจะได้รับความนิยมเป็นทวีคูณบนโลกอินเทอร์เน็ต
การบอกต่อจากคนหนึ่งคนไปอีกหลายๆ คน จากหนึ่งเป็นห้า จากห้าเป็นสิบ เป็นร้อย ต่อไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นหลายล้านคน สิ่งเหล่านี้สร้างพลังให้สิ่งที่ไม่มีอะไร กลายเป็นที่รู้จักของคนในชั่วข้ามคืน
จากคนธรรมดาไม่มี Profile อะไรบนโลกออฟไลน์ แต่ด้วยพลังของ Social Network ที่กระจายข้อมูลข่าวสารได้ไวเหมือนแพร่ไวรัส คนคนนึงที่ธรรมดาก็กลับกลายเป็นคนที่โลกรู้จัก บางคนพลิกชีวิตจากคนที่สิ้นเนื้อประดาตัวให้กลับมีอาชีพ มีงานทำ เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป?บางคนกลายเป็นศิลปินดาราที่โลกให้การยอมรับ… เรามีเรื่องจริงมาเล่าให้คุณฟัง
ล่าสุดนี้ชายคนนึงที่ชื่อว่า Ted Williams ซึ่งหากมองผิวเผิน คนคนนี้ก็จะเหมือนชายเร่ร่อนไม่มีที่พักพิง แต่ด้วย Viral Video ตัวหนึ่งที่มีคนเอามาอัพโหลดขึ้นไว้ใน YouTube ทำให้ชีวิตของชายผู้นี้เปลี่ยนไป
ความโดดเด่นของชายผู้นี้คือ “เสียง” ใช่ครับ คุณไม่ได้อ่านผิดอะไร เสียงของชาย Ted Williams นั้นได้รับการขนานนามจากหลายคนว่าเป็น “เสียงทองคำ” เพราะเสียงพูดของชายผู้นี้นั้นเรียกว่าเพราะมาก (ภาษาบ้านเราก็อาจจะเรียกว่า “เสียงหล่อ” มาก)
เมื่อวิดีโอตัวนี้ได้มีการแพร่ภาพออกไปบนโลกอินเทอร์เน็ต ผ่านแหล่ง Video Portal ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง YouTube นั่นทำให้มีคนรู้จักชายผู้นี้เพิ่มขึ้น หากดูจากจำนวนจากสถิติการเข้าชมวิดีโอตัวนี้ จะพบว่าสูงกว่า 8 ล้านครั้งเลยทีเดียว ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
และไม่เพียงแค่นั้น หากลองค้นหาคำว่า “Golden Voice” หรือ “Ted Williams” ใน YouTube ก็จะพบว่ามีวิดีโออีกหลายตัวที่ได้การเข้าชม และแต่ละตัวมีจำนวนตัวเลขการเข้าชมที่สูงเกินกว่าหลายแสนครั้ง หรือบางตัวเป็นหลักล้านก็มี
ตัว Ted Williams เองนั้นก็เป็นแค่ชายวัย 53 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวิทยุ แต่มาตกอับเมื่อหลงผิดไปติดยาเสพติด และถูกจับในข้อหาลักขโมย รวมถึงใช้ชีวิตอยู่อย่างเร่ร่อนราว 10 ปี หาเลี้ยงลูกถึง 9 คนด้วยการถือป้ายซึ่งบอกว่า ตัวเขาเองได้รับของขวัญจากพระเจ้าเป็นเสียงที่ไพเราะ โดยตัวเขาเองเป็นอดีตผู้จัดรายการวิทยุ และขอรับบริจาคเงินเพียง 1 เหรียญสหรัฐ (ราว 30 บาท) เพื่อแลกกับการฟังเสียงที่ว่าไพเราะของเขาเอง ตามถนนหาทาง
และไม่น่าเชื่อว่าด้วยพลังแห่ง Social Network ที่แพร่กระจาย Viral video ตัวนี้จะส่งผลให้ชีวิตของ Ted เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาได้รับเชิญไปออกรายการต่างๆ มากมาย ได้บินไปพบแม่ซึ่งไม่ได้พบหน้ากันมาหลายสิบปี รวมถึงรับรับการจ้างงานจาก Cleveland Cavaliers ทีมบาสเกตบอลชั้นนำของ NBA ให้เป็นผู้ประกาศ
อิทธิพลของ Viral Video ก็ไม่ได้มีเพียงกรณีของ Ted Williams คนเดียว ก่อนหน้านี้คนดังหลายคนก็เกิดจากพลังของรูปแบบการประชาสัมพันธ์ตัวเอง อย่างเช่นผู้หญิงคนนี้ซึ่งถ้าพูดชื่อไป คงไม่มีใครหรือน้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินชื่อของ “Susan Boyle”
โดย Susan โด่งดังจากการประกวดความสามารถการร้องเพลงในรายการ “Britains Got Talent 2009” ซึ่งคงไม่มีใครคาดคิดว่าผู้หญิงที่มาจากย่านชนบทของประเทศสก๊อตแลนด์ ที่ท่าทางและการแต่งตัวแบบเชยๆ จะสามารถร้องเพลงได้อย่างพิเศษสุด
เมื่อเธอร้องเพลงให้คณะกรรมการและผู้ชมได้ยิน เพียงแรกเริ่มที่เธอขึ้นเสียงในระดับโซปราโน่ ทุกคนต่างปรบมือและชื่นชมในความสามารถของเธอ และหลังจากนั้น คลิปการร้องเพลงประกวดในรอบแรกของเธอได้ถูกอัพโหลดขึ้นบน YouTube ก่อนที่จะมีการส่งต่อกันไปเรื่อยๆ เพียง 3 วันแรกของการอัพโหลด มีผู้คลิกเข้าชมการร้องเพลงของเธอกว่า 2.5 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันคลิปวิดีโอนี้มีคนคลิกเข้าไปชมเกินกว่า 57 ล้านครั้ง ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ของ YouTube เลยทีเดียว (ยังไม่รวมถึงคลิปของ Susan Boyle ที่มีอีกมากกว่า 50 คลิปบน YouTube) และคลิปใน YouTube ของ Susan นั้นไม่สามารถคัดลอก Embed Code ออกมาได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ซะด้วย
เช่นเดียวกันชีวิตของเธอพลิกผัน มีการได้รับการเซ็นสัญญาเข้าสู่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Sony Music และกลายเป็นคนดังที่ได้รับการเชิญไปออกรายการ และร้องเพลงโชว์ทั่วเกาะอังกฤษและในสหรัฐฯ อีกด้วย
นอกจากทางฝั่งตะวันตกและยุโรปแล้ว อิทธิพลของ Social Network ในรูปแบบของ Video นั้นก็ส่งผลไม่น้อยกับชาวเอเชียอย่างเราๆ อย่างเช่นกรณีของสาวน้อย Charice Pempengco ชาวฟิลิปปินส์ ที่ดังเป็นพลุแตก ไม่ต่างจากกรณีของ Susan Boyle เมื่อไปออกรายการโทรทัศน์ท้องถิ่นในฟิลิปปินส์โดย ณ ขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น
เธอได้ร้องเพลง ?And I Am Telling You I?m Not Going? ซึ่งเป็นเพลงประกอบหนังเรื่อง Dreamgirls ซึ่งแน่นอนว่าคลิปรายการนี้ถูกอัพโหลดขึ้น YouTube และเพียงไม่นานสาวน้อย Charice ก็ได้ออกรายการ The Oprah Winfrey Show ของ Oprah Winfrey ซึ่งเป็นรายการดังที่มีเรตติ้งสูงอันดับต้นๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ออกรายการโชว์ตัวต่างๆ มากมาย และที่สำคัญได้รับการผลักดันจาก David Foster “The hitman” ซึ่งแต่งเพลงและเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินดังๆ มาเยอะ ดึงมาร่วมออกอัลบั้ม และทัวร์รอบโลกด้วย
ปัจจุบันเธอได้เซ็นสัญญากับค่าย Warner ค่ายเพลงดังจากสหรัฐฯ และได้ออกรายการเพลงรวมถึงออกอัลบั้มของตัวเอง รวมถึงมีช่องรายการอยู่บน YouTube Channel ให้แฟนๆ ได้ติดตาม (คลิปวิดีโอที่มีคนคลิกมาที่สุด ถูกถอดออกจากบน YouTube แล้ว เนื่องด้วยปัญหาลิขสิทธิ์เช่นกัน)
จะเห็นได้ว่า Viral Video ทำให้คนธรรมดาเปลี่ยนสถานะเป็นคนดังในชั่วข้ามคืนได้ แต่เช่นเดียวกันด้วยพลังแห่งการแบ่งปันและบอกต่อ หากเป็นเรื่องราวในแง่ลบ มันก็จะถูกตีแผ่ออกไปอย่างรวดเร็ว และทำให้บุคคลที่ตกเป็นข่าวหรือกระแสนั้น ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างยากลำบากเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากจะทำอะไรให้เป็นกระแส อาจจะต้องคิดซักนิดนึง ก่อนที่จะเปิดเผยเรื่องราวหรือทำอะไรบนโลกอินเทอร์เน็ตกันบ้าง
จากบทความข้างบน ทำให้คุณอาจจะต้องกลับมาคิดแล้วว่า คุณ…เคยคิดกันไว้บ้างหรือเปล่าว่าจะใช้ Viral Video เหล่านี้ กับตัวคุณอย่างไร ไม่แน่นะครับ คุณอาจจะเป็นคนต่อไปที่จะไม่เหมือนเดิมหลังจากมี Viral Video เหล่านี้บ้างก็ได้