แต่ก่อนเวลาแบรนด์เลือก Presenter มักจะวิธีเลือกไม่กี่อย่างเช่น ผู้ที่มีชื่อเสียง สร้างความสนใจให้กลุ่มเป้าหมายได้ ค่าตัวอยู่ในงบที่กำหนดไว้ แต่ตอนนี้การจะสร้างความน่าสนใจไม่จำเป็นต้องพึ่ง Presenter เสมอไปแล้วเพราะมี Tool ที่หลากหลายมากขึ้นและมีช่องทางที่จะสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายมากกว่าแต่ก่อน แล้ว Presenter ยังจำเป็นสำหรับการสื่อสารอยู่หรือเปล่า เรามาดูเหตุผลกันค่ะ
Presenter ก็คือผู้มีอิทธิพล
หากแบรนด์อยากสร้างการสื่อสารที่อิมแพ็คบางทีคำจำกัดว่าดาราและนักร้องคงควบคุมไม่หมด ให้มองเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย อย่างล่าสุดที่ AIS ดึง Lisa Blackpink มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก
ทั้ง Reach & Engagement หลักล้าน นี่คือความสำเร็จหากแบรนด์เลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ คือนอกจากจะเป็นที่รู้จักอย่างล้นหลามแล้วยัง Lead ให้กลุ่มเป้าหมายซื้อสินค้าของเราได้ด้วย ยังต้องมีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้แคมเปญนั้น Success
Presenter ก็แค่ Tool หนึ่งเท่านั้น
ก่อนอื่นต้องบอกว่า Presenter ที่มีอิทธิพลตามข้อแรกที่ได้กล่าวไปมีมูลค่าหลายล้านหรือสิบล้านบาท ซึ่งสินค้าบางตัวออกหลายครั้งต่อปี ทำให้งบการตลาดแคมเปญนั้นไม่ได้สูงมากพอที่จะสามารถมี Presenter ได้เสมอไป หลายแบรนด์จึงเลือกวิธีแก้เช่น
- ลงเงินกับ Media เพื่อสร้างอิมแพ็คแทน
- จัดแคมเปญ Lucky Draw สร้างความน่าสนใจ
- ใช้ Mascot แทนพรีเซ็นเตอร์
กลยุทธ์ที่กล่าวมาขึ้นอยู่กับตัวสินค้าเองว่าเหมาะกับกลยุทธ์ไหน ซึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจคือ ของ SCB ที่ใช้แม่มณีเป็น Presenter หลัก หากมีแคมเปญไหนเพิ่มและใช้ดารานักร้อง ก็นำดารานักร้องมาโปรโมทแม่มณีอีกที เป็นการสร้างอิมแพ็คสองต่อ และประหยัดงบไปได้อีกมหาศาล
Content ตรงกลุ่มก็เพียงพอ
สังเกตว่า KFC เป็นเเบรนด์ที่แทบไม่ได้มี Presenter เลย อาศัย Content บนโลกออนไลน์เป็นตัว Lead หลักเพื่อสร้าง Awareness & Engagement ส่วนนักแสดงที่ใช้ก็เป็นคนทั่วไปไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมาก
อย่างล่าสุดที่ KFC โปรโมทเบอร์เกอร์ไก่กรอบ ที่ผลิตเพียง 300,000 ชิ้นทั่วประเทศ KFC ไม่ได้เลือกใช้ Presenter เป็นตัว Lead เลยเเต่ใช้ Content Lead โดยเฉพาะ ฉะนั้นการวางงบกับ Content Online ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ทิ้งท้าย
จากที่กล่าวไปคงจะบอกไม่ได้ชัดว่า Presenter ยังจำเป็นอยู่มั้ย เพราะแต่ละแคมเปญหรือผลิตภัณฑ์ต้องขึ้นอยู่กับสินค้าคือแบรนด์ว่ามองเป้าหมายของการทำตลาดเป็นอย่างไร กลุ่มเป้าหมายคือใคร เสพสื่อที่ใดแบบไหนกันบ้าง ถึงจะตอบได้ว่า Presenter ยังสร้างผลกระทบได้โดนใจผู้ชมมากพอหรือไม่ เพราะต่อให้เราเอา Presenter ที่เป็นแม่เหล็กมาดึงดูด แต่กลุ่มเป้าหมายไม่ได้เสพสื่อด้านนั้นเท่ากับว่าเราละลายเงินลงแม่น้ำ ก็ถือว่าเป็นโจทย์ที่นักการตลาดถูกท้าทายในปีนี้เลยล่ะ