(7 ม.ค.) สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเหตุการณ์ที่แคปปิตอล ฮิลล์ อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ จากการที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปภายในตัวอาคาร จนทำให้การประชุมรับรองผลเลือกตั้งต้องสะดุดลง โดยมีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตภายในอาคารรัฐสภา
เหตุการณ์เริ่มตึงเครียดเจ้าหน้าที่จึงอพยพสมาชิกสภาครองเกรส ออกจากอาคารทางอุโมงค์ใต้ดิน และประกาศให้สมาชิกที่เหลือสวมหน้ากากกันแก๊ส เพื่อเตรียมใช้แก๊สน้ำตา
ทางด้านปธน.ทรัมป์ที่ก่อนหน้านี้พยายามเรียกร้องผ่านทวิตเตอร์ให้ทุกฝ่ายในอาคารรัฐสภางดใช้ความรุนแรง ได้ออกมาโพสต์วิดีโอที่เริ่มต้นด้วยการอ้างว่าเขาเป็นฝ่ายชนะขาดลอย และขอให้ผู้สนับสนุนกลับบ้าน พร้อมทั้งย้ำอย่างน้อย 2 ครั้งว่าเขาถูกโกงการเลือกตั้ง ปิดท้ายด้วยการชื่นชมผู้สนับสนุน
ในเวลาต่อมา เฟซบุ๊กและยูทูบสั่งลบวิดีโอคลิปของทรัมป์ ออกจากแพลตฟอร์ม โดยอ้างว่าคลิปดังกล่าวยุยงให้เกิดความรุนแรง รวมถึงทวิตเตอร์ประกาศบล็อคบัญชี @realDonaldTrump ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเวลา 12 ชั่วโมง หลังจากปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความอย่างต่อเนื่องว่า เขาถูกโกงการเลือกตั้งในปี 2020
ด้าน โจ ไบเดน ออกมาประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่เดอะ แคปปิตอล ฮิลล์ “ประชาธิปไตยของเราโดนโจมตีอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน” พร้อมเรียกร้องให้ทรัมป์แถลงการณ์ปกป้องรัฐธรรมนูญ ออกคำสั่งให้ยุติการบุกยึดรัฐสภา
ราว 4 ชั่วโมงหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขาสามารถเคลียร์ผู้ก่อจลาจลออกจากรัฐสภาได้แล้ว แต่ผู้สนับสนุนทรัมป์นับพันคนยังคงรวมตัวกันอยู่ด้านนอกอาคาร ท้าทายคำประกาศเคอร์ฟิวเวลา 18.00 น. ของนายกเทศมนตรีวอชิงตัน
ล่าสุดมีรายงานว่าหญิงรายหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมที่บุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภาถูกยิง และได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว