รัฐบาลจัดโครงการ “คนละครึ่ง” ให้ประชาชนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป รับเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจำนวน 3,000 บาท จำนวน 10 ล้านสิทธิ์ โดยใช้วิธีการร่วมจ่าย (Co-pay)
ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ‘คนละครึ่ง’ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 63 ตั้งเป้าลดค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจ มีระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม – ธันวาคม 2563 เป็นเวลา 3 เดือน
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
1. ต้องถือสัญชาติไทย
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ร้านค้าย่อยที่เข้าร่วมโครงการ ต้องขึ้นทะเบียน “ถุงเงิน” ไว้กับธนาคารกรุงไทย อาทิ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารตามสั่ง หาบเร่ แผงลอย เป็นต้น
หลักเกณฑ์ของโครงการ
- รัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้ 50% และผู้รับสิทธิ์จ่ายเอง 50% (เบื้องต้นกำหนดให้ใช้จ่ายได้วันละ 100 บาทต่อคนต่อวัน) กำหนดวงเงินช่วยเหลือไม่เกินคนละ 3,000 บาท
- ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย
- ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนกับธนาคารกรุงไทยแล้วเท่านั้น
- คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ได้ในวันที่ 16 ตุลาคม 2563
ตัวอย่างร้านที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ใช่นิติบุคคล และไม่ใช่ร้านค้าสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจเฟรนไชส์ มีกลุ่มเป้าหมายร้านค้าจำนวนประมาณ 100,000 ร้าน
โดยร้านค้าสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 หรือแจ้งผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย
นอกจากนี้ที่ประชุม ศบศ. ยังมีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2563
มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน
อ้างอิง ฐานเศรษฐกิจ, Sanook