จากสถิติผู้เล่น Twitter ที่เติบโต 33% จากปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ต่างจาก Facebook ที่นอกจากยอดผู้เล่นจะลดลงฮวบฮาบเเล้ว ระบบก็ไม่เสถียร ค่าบูสต์ Ads ก็แพงลิบโลก
ส่งผลให้นักการตลาดหลายแบรนด์หนีมาซบ Twitter แทน เเต่เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เมื่อทั้งสองแพลตฟอร์มไม่เหมือนกันสักนิด
Facebook ไม่เหมือนเดิม
ในปีที่ผ่านมา นักการตลาดส่วนใหญ่เลือกใช้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มหลักในการโปรโมทแคมเปญออนไลน์เพราะมีผู้เล่นที่เยอะ และเครื่องมือที่หลากหลาย
ทำให้แคมเปญหลายแบรนด์ประสบความสำเร็จในการโปรโมท ยิ่งถ้ามีเม็ดเงินอัดฉีดสูงๆ ก็ยิ่งผลักดันให้ทุกอย่างปังขึ้น
จึงเกิดศึกแบรนด์ฟาดฟันกันอย่างหนักหน่วง ภาพเเต่ละแคมเปญสวยปังจนต้องกดซื้อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอะไรก็เปลี่ยน ปี 2561 เห็นได้ชัดสุดว่า Facebook ไม่ใช่แพลตฟอร์มที่เเบรนด์จะฝากไว้ทั้งหมด
เพราะระบบไม่เสถียรและค่าใช้จ่ายในการบู้ท Ads ที่สูงขึ้น แต่ถึงมีเงินอัดฉีดเเค่ไหน แคมเปญก็ไม่ปังอยู่ดี นักการตลาดหลายคนจึงเลือก Twitter
เป็นแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งคงไม่ได้ยากอะไร แค่เปิดแอคเคาท์ Twitter และเอาคอนเทนต์จาก Facebook มาอัพลงก็พอ
แต่เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างงั้นน่ะสิ!
เเพลตฟอร์มใหม่อะไรก็เปลี่ยน
ถ้านักการตลาดคิดเเค่ เอาภาพคอนเทนต์จาก Facebook แล้วมาอัพลง Twitter บอกเลยว่าคุณกำลังทำให้ทุกอย่างเเย่ลง เพราะทั้งเสียเวลาและยิ่งเพิ่มความล้มเหลวของเเคมเปญ
นักการตลาดต้องย้ำตัวเองเสมอว่า ทุกแพลตฟอร์ม พฤติกรรมการเล่นไม่เหมือนกันสักนิด!
- Twitter คือความเรียล ข้อความที่โพสต์แทบจะเป็นด้านมืดที่ลงใน Facebook ไม่ได้และที่นี่คือเเหล่ง Insight ชั้นดี
- เพราะความเรียลทำให้รูปภาพไม่จำเป็นต้องสวยเพราะมันดูปลอม แต่ภาพต้องมีความรู้สึก มีสตอรี่เเค่เห็นก็เข้าใจเลยว่าจะสื่ออะไร
- Twitter โดดเด่นเรื่องแฮชเเท็ก #เลือดข้นคนจาง จะติดเทรนด์เสมอเมื่อละครฉาย
ประเด็นหลักของ Twitter มีแทบไม่กี่อย่างคือคอนเทนต์ต้องดูเรียลไม่ปลอมและมีแฮชแท็ก เป็นสองประเด็นหลักที่จับกันได้ง่ายๆ เเต่ทำมันไม่ง่ายเลย
เเค่เเอบเนียนในเเฮชเเทคมันไม่พอ
ถ้า Facebook มีเพจดัง ใน Twitter ก็มีเซเลปเช่นกัน ซึ่งก็คือแอคเคาท์ที่มียอดติดตามสูงๆ หรือถ้ามากหน่อยก็เรียกว่าเป็น Micro Influencer ซึ่งเป็นกลุ่มที่นักการตลาดหลายแบรนด์เลือกใช้
โดยขั้นแรกคือให้ Micro Influencer ปั่นเเฮชเเท็กให้ติดเทรนด์ให้ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ทำคือโพสต์เรื่องที่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับแบรนด์เเต่ติดแฮชแท็กไว้ เเละปั่นให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันจะเกิดประโยชน์อะไรถ้าข้อมูลของสินค้าไม่ออก
ไม่ใช่เเค่ติดเทรนด์ Twitter แปลว่าเเคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ ต่อให้ติดเทรนด์อันดับ 1 ก็ยังไม่สำเร็จ ถ้าเปิดเข้าไปดูแฮชแท็ก แล้วมีเเต่โพสต์ที่ไม่เกี่ยวกับแบรนด์เลยสักนิด
นี่คือความสำเร็จแบบปลอมๆ ที่นักการตลาดออนไลน์ต้องดูให้ออก และการจะมีเเฮชเเท็ก แค่ชื่อเเบรนด์ตรงๆ ก็จะดูฮาร์ดเซลเกินไป เอาหละสิ นั่นไม่ดี นี่ไม่ได้ เเล้วที่ดีคืออะไร
เราจึงขอหยิบกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ไม่ต้องปั่นแฮชแท็กอะไร อย่างเคสของ Meiji Yoghurt
Meiji Yoghurt ออกโยเกิร์ตเนื้อใหม่ที่นุ่มและเต็มไปด้วยเนื้อผลไม้ โดยให้เหล่า Micro Influencer ในทวิตรีวิวโยเกิร์ตแบบง่ายๆ ดูไม่ได้ตั้งใจพูดถึงแบรนด์
แต่ภาพสื่อถึงเนื้อผลไม้อัดเเน่นในถ้วย และภาพไม่ต้องสวยอะไรมาก เน้นแค่เนื้อสตอเบอร์รี่ที่อยู่ในถ้วยเยอะๆ พอ ซึ่งตรงกับ Key message คือ เนื้อแน่น ฟินด้วยเนื้อผลไม้
ผลปรากฏว่า Meiji Yoghurt ขาดตลาดหาซื้อไม่ได้เพราะว่าขายหมดเกลี้ยง และคนที่ซื้อไปก็เอาไปรีวิวต่อเรื่อยๆ ว่าซื้อแล้วนะเนื้อเยอะจริง
กลายเป็นว่าสินค้าขายได้ด้วยตัวมันเอง ซึ่งเป็นความสำเร็จในการโปรโมทแคมเปญบน Twitter อย่างมาก
หรือถ้าหลายแบรนด์ยังไม่มีงบในการตลาดมากนักให้เนียนใช้แฮชเเท็กที่ดังอย่าง #Howtoperfect #รีวิวเซเว่น อย่างใดอย่างหนึ่ง
เพราะการที่แฮชแท็กเยอะๆ จะดูตั้งใจจะมารีวิวมากเกินไป สำหรับคอนเทนต์บน Twitter ยังคงต้องอาศัยความเนียนในการรีวิวอยู่
ไม่เหมือน Facebook ที่ต้องบอกเลย ว่าเป็นโพสต์ของสปอนเซอร์ เพราะถ้าเนียนแบบไม่มีศิลป์ คนจะลดความเชื่อถือลง
ข้อดีของเเฮชเเท็ก
แฮชแท็กเป็นหัวใจหลักของ Twitter เพียงเเค่ใช้ให้ถูกที่ถูกทาง อย่าง #ความลับมีในโลก เพื่อโปรโมทเพลงใหม่ของ INK WARAUNTORN
ที่ช่วงเเรกให้ Micro Influencer สายดราม่าดันแฮชแท็ก #ความลับไม่มีในโลก ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับความรักที่เราแอบปิดเป็นความลับ เพราะรู้ว่าต่อให้บอกไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา
งั้นขอปิดเป็นความลับจะดีกว่า จี้ใจสายเเอบรักที่เป็นกลุ่ม Target เพลงความลับมีในโลก ทำให้การโปรโมทในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากซึ่งจุดที่เหมือนกับ Meiji Yoghurt คือการที่ทำให้กลุ่ม Taget ของเรา
โพสต์และติดแฮชแท็กของเราขึ้นมาเอง (User generate content : UGC) หรือเรียกว่ากลุ่มเป้าหมายผลิตคอนเทนต์ด้วยตัวเอง เป็นการเพิ่มกระแสได้ดีมากเพราะเกิดการกระจายจากกลุ่ม Taget เอง
บทสรุปของการโปรโมทเเคมเปญบท Twitter
วิธีสร้างกระแสบนโลก Twitter อาจมีหลายวิธีตามแผนแต่ละแบรนด์ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเรียลต้องจริง ถามว่าภาพสวยทำไมถึงไม่ส่งผล
เพราะภาพสวยเเสดงถึงความตั้งใจที่มากเกินไป ไม่ธรรมชาติ ทำให้ภาพสวยไม่ใช่คำตอบ และการสร้างแคมเปญบนโลก Twitter
ควรสร้างให้เป็นคอนเทนต์เเบบ UGC คือกลุ่ม Target ชื่นชอบเเละสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวเอง เพื่อให้กระเเสกระจายไปได้ไกลกว่าเดิม และเมื่อกดแฮชแท็กเข้าไป ก็เต็มไปด้วย Message ที่เราอยากจะสื่อออกมา แสดงว่าแคมเปญโปรโมทในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ