ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสความนิยมเรื่อง QR Code หรือบาร์โค้ด 2 มิติเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบนกล่องชาเขียวบางยี่ห้อ บนซองขนม หรือแม้กระทั่งบนนามบัตร เนื่องจาก QR Code เป็นการนำเสนอข้อมูลที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีเวลาจำกัดในการรับข้อมูล
QR Code (Quick Response) เป็นบาร์โค้ด 2 มิติที่ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นจากบาร์โค้ดในรูปแบบเดิมโดยบริษัท Denso-Wave ในประเทศญี่ปุ่น เป้าหมายในการพัฒนาคือเพื่อใช้ในการนำเสนอข้อมูล เช่น ชื่อและรายละเอียดสินค้า โปรโมชั่น รวมไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท อย่าง เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรือแม้แต่เว็บไซต์ ให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถเปิดชมได้ในเวลารวดเร็ว โดยผู้ใช้งานสามารถถอดรหัสออกมาเป็นข้อมูลเหล่านี้ได้เพียงแค่การสแกน QR Code ผ่านกล้องบนโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
เว็บไซต์ Printrobot.com รายงานว่า ปัจจุบันการใช้งาน QR Code ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในปี 2012 ที่ผ่านมา โดยพบว่าผู้บริโภคมีการสแกนข้อมูลผ่าน QR Code เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2011 ถึง 4549% โดยผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 35-44 ปี (25%) รองลงมาเป็นอายุ 25-34 ปี (22%) อายุ 45-54 ปี (21%) อายุ 18-24 ปี (16%) อายุ 55 ปีขึ้นไป (11%) และอายุต่ำกว่า 18 ปี (5%)
นอกจากนี้ยังพบว่า Android เป็นระบบปฎิบัติการที่ถูกใช้ในการสแกน QR Code มากที่สุดเป็นอันดับ 1 (48%) รองลงมาเป็น iOS (45%) Blackberry (4%) และ Symbian (3%)
ในมุมร้านค้า การสำรวจพบว่าเป้าหมายหลักของการนำ QR Code มาใช้ในการทำธุรกิจ คือ ต้องการบอกรายละเอียดสินค้า ขณะที่บางร้านใช้ QR เพื่อเป็นคูปองลดราคาสินค้า, ใช้เป็นรหัสสำหรับชำระค่าสินค้าผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (Mobile Payment), ใช้เชื่อมโยงเข้าสู่โซเชียลมีเดีย และใช้เป็นทางดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ง่ายกว่า
และเมื่อลองสอบถามถึงการใช้งาน QR Code ในกลุ่มนักการตลาดและนักธุรกิจพบว่า ส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจในการนำ QR Code มาใช้ในการทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2012 ที่ผ่านมา QR Code มีจำนวนการใช้งานเพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2011 ที่มีเพียงแค่ 8% เป็น 47% อีกทั้งในกลุ่มที่ยังลังเลและไม่ค่อยเชื่อมั่นในการใช้งาน QR Code เท่าไหร่นัก ก็เริ่มเปลี่ยนใจและหันมาให้ความสำคัญกับการใช้งาน QR Code เพิ่มมากขึ้นในปี 2012 ด้วยเช่นกัน
ส่วนแนวโน้มการใช้งาน QR Code ในปีนี้ (2013) มีการประเมินว่า การใช้งาน QR Code จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนมีจำนวนการใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 305 ล้านโค้ด และคาดว่าจะทำสถิติเพิ่มสูงขึ้นถึง 590 ล้านโค้ดในปี 2016 หรืออีกเพียงแค่ 3 ปีข้างหน้า
ที่มา : Visual.ly