Qunar เว็บไซต์จองที่พักและแพคเกจท่องเที่ยวในเครือ Baidu ประเดิมขายหุ้นครั้งแรกหรือ IPO ที่ตลาดหุ้นแนสแดค (NASDAQ) ของสหรัฐฯ แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ Qunar สามารถเพิ่มทุนดำเนินงานได้มากกว่า 167 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 5,300 ล้านบาท) ในวันเดียว
การเพิ่มทุน 167 ล้านเหรียญสหรัฐของ Qunar นั้นได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเงินทุนกว่า 5,300 ล้านบาทนี้เป็นผลจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากราคาเปิดจำหน่าย IPO เกือบ 2 เท่าตัว ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนการเพิ่มขึ้นที่ไม่ธรรมดา
Qunar.com ถูกบรรยายในเว็บไซต์ของแนสแดค (nasdaq.com) ว่าเป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวของจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2005 มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง การสำรวจของบริษัทวิจัย iResearch ในเดือนมกราคม 2013 พบว่า Qunar.com มีผู้ใช้งานมากกว่า 75 ล้านคนต่อเดือน แถมแอพพลิเคชัน Qunar ยังเป็นแอพพลิเคชันท่องเที่ยวที่ถูกใช้งานบนอุปกรณ์พกพามากที่สุดในจีนช่วงปี 2012
เบื้องหลังความสำเร็จของ Qunar คือเป้าหมายในการเป็นตัวช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถออกแบบการท่องเที่ยวของตัวเองได้อย่างเสรีและสะดวกสบาย โดย Qunar ออกแบบให้ตัวเองเป็นแหล่งข้อมูลครบวงจรที่รองรับการใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์พกพา ผู้ใช้ Qunar จะสามารถค้นหาแพคเกจหรือดีลที่ดีที่สุดจากผู้ให้บริการท่องเที่ยวหลายร้อยหลายพันราย บนรูปแบบการใช้งานที่ง่ายและเกิดประโยชน์สูงสุด
รายงานระบุว่า ก่อนที่ Qunar จะเริ่มจำหน่าย IPO ที่ตลาดแนสแนค บริษัทตั้งเป้าว่าจะเพิ่มทุนเพียง 125 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น (ราว 4,000 ล้านบาท คำนวณจากราคา IPO 15 เหรียญสหรัฐ) โดยหุ้นของ Qunar พุ่งขึ้นจนปิดตลาดที่ 28.40 เหรียญในวันเดียวกัน (ราว 900 บาท) ทำให้มูลค่าเงินทุนที่เพิ่มขึ้นของ Qunar กลายเป็น 167 ล้านเหรียญ เรียกว่าอยู่ในระดับเกินความคาดหมาย สะท้อนว่านักลงทุนเชื่อมั่นเต็มที่ว่า Qunar.com จะเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต
สำหรับ Baidu เสิร์ชเอนจินจีนนั้นเทเงินลงทุนไปกับ Qunar.com มากกว่า 306 ล้านเหรียญ (ราว 9,800 ล้านบาท) เมื่อมิถุนายน ปี 2011 โดยเจ้าพ่อบริการค้นหาข้อมูลออนไลน์เข้าถือหุ้นใหญ่ใน Qunar.com ทำให้ Qunar กลายเป็นบริษัทในเครือ Baidu ตั้งแต่นั้นมา
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเห็นจากผู้บริหาร Qunar หรือ Baidu มีเพียงการประกาศตั้งเป้าให้ Qunar ทำรายได้มากกว่า 160 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ บนความได้เปรียบสำคัญคือการใช้งานแอพพลิเคชันผ่านอุปกรณ์พกพาที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเอกสาร F-1 ที่ Qunar ยื่นต่อคณะกรรมการดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯหรือ SEC นั้นระบุว่า Qunar.com ประสบภาวะขาดทุน 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 90 ล้านบาท) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2013 บนยอดจำหน่ายเพียง 58.5 ล้านเหรียญเท่านั้น (ราว 1,900 ล้านบาท) ซึ่งถือว่ายังตามหลังเบอร์หนึ่งในตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ของจีนอย่าง Ctrip แบบไม่เห็นฝุ่น
บทสรุปจากข่าวนี้คืออีคอมเมิร์ซจีนกำลังเติบโตไปอีกขั้นบนเวทีโลก และความมั่นใจจากโลกตะวันตกจะทำให้ธุรกิจเอเชียขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคตแน่นอน
ที่มา: Tech in Asia, Nasdaq