สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องมือช่วยในการทำโฆษณาดิจิทัลในยุคที่แคมเปญต่าง ๆ มีความซับซ้อนมากขึ้น บริษัท CtrlShift ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านสื่อโฆษณาดิจิทัลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ r3 (อาร์-คิวบ์) โดย r3 Solution จะเข้ามารับหน้าที่จัดการและเผยแพร่โฆษณาแคมเปญผ่านสื่อดิจิทัล ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ จากตัวเลขในปัจจุบัน การใช้งาน Programmatic ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) คิดเป็น 22% ของทั่วโลก (Programmatic 2016) ถือว่าเป็นภูมิภาคที่ใช้เทคโนโลยีมากที่สุดเป็นอันดับสอง และคาดการณ์ว่าจะก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นเป็น 49% ในปี 2563
ซึ่ง Deepika Nikhilender CEO ของ CtrlShift เผยว่า “มีนักการตลาดจำนวนมากที่คิดว่าการใช้เทคโนโลยี Programmatic เป็นเพียงแค่การลดต้นทุน แต่ในปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีนี้ ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง r3 จะใช้เทคโนโลยี Programmatic และ Audience Data เพื่อนักการตลาดจะสามารถวางกลยุทธ์ และวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาบนสื่อดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงบรรลุเป้าหมายของธุรกิจที่ได้วางแผนไว้”
พร้อมกันนี้ทาง CtrlShift ยังได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของลูกค้าประกันภัยรถยนต์รายหนึ่งในการใช้ r3 เพื่อให้โฆษณาสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำและคุ้มค่ากับต้นทุนมากที่สุด ผลลัพท์ที่ได้คือ Cost Per Lead ลดลง 25 เปอร์เซ็นต์ จากการใช้ r3 ซึ่งต่ำกว่าแคมเปญที่ใช้เพียงข้อมูลของลูกค้าโดยตรง (First-Party Data)
นอกจากนั้น ในการวิเคราะห์ First-party Data ที่ได้จากทางลูกค้ายังพบว่ากลุ่มเป้าหมายที่สนใจด้านอสังหาริมทรัพย์มักจะมีการตอบสนองโฆษณาของลูกค้าประกันภัยรถยนต์ค่อนข้างสูงด้วย
โดย Deepika เผยว่า ข้อมูลเชิงลึกที่ r3 สร้างขึ้นยังเป็นมากกว่าแค่การแสดงผล (Impression) ของการ ‘Clicks’ และ ‘Views’ แบบทั่วไป ข้อมูลเหล่านี้ครอบคลุมถึง Demographics ของ Creative ในแต่ละแคมเปญด้วย ซึ่งการรวมผลข้อมูลจากช่องทางต่างๆ เข้าด้วยกัน และนำเสนอในภาพรวมเพื่อทำการเปรียบเทียบในแต่ละช่องทางแบบ Single-View ส่งผลให้สามารถประเมินผลของแต่ละแคมเปญในแต่ละช่องทางได้ชัดเจนขึ้น (Engagement Statistics)
นอกเหนือจากความแม่นยำจากการตั้งกลุ่มเป้าหมาย CtrlShift ยังให้ความสำคัญในเรื่อง การโกงโฆษณาในดิจิทัล (Ad Fraud) การมองเห็นโฆษณาอย่างแท้จริง (Viewability) และการขึ้นโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของแบรนด์ (Brand Safety) เพื่อแก้ปัญหาความกังวลของนักการตลาดที่มักจะพบอยู่บ่อยครั้งเมื่อมีการจัดทำแคมเปญในสื่อดิจิทัล r3 มีระบบตรวจจับการโกงโฆษณาในดิจิทัลก่อนและระหว่างแคมเปญ เพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาไม่ได้ถูกแสดงบนเว็บไซต์ที่ใช้โปรแกรมช่วยคลิกโฆษณาแบบอัตโนมัติ (Bot Clicks) หรืออื่นๆ r3 สามารถใช้เทคโนโลยีที่ช่วยวิเคราะห์เนื้อหาของเว็บไซต์เพื่อที่จะไม่ให้โฆษณาไปเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเพื่อทำตามข้อจำกัดของแบรนด์ (Brand limits) รวมถึงการไม่แสดงโฆษณาในเว็บไซต์ ที่ไม่สอดคล้องกับ Brand Guideline เช่น เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการพนัน สื่อลามกอนาจาร ศาสนา การเมือง