แฟนซีรียส์ Game of Thrones หลายคนได้อึ้งและทึ่งกับตอนที่ 9 ของซีซัน 3 “The Rains of Castamere” ซึ่งมีฉากปวดหัวใจ ‘Red Wedding’ รวมอยู่ด้วย ปรากฏว่าฉากวิวาห์เลือดนี้เองที่ทำให้ “The Rains of Castamere” กลายเป็นตอนซีรียส์ที่ถูกกล่าวถึงบนโลกโซเชียลมากที่สุดไปเรียบร้อย โดยครองแชมป์เหนือโชว์ทุกตอนที่สถานี HBO เคยฉายมา
สถานีโทรทัศน์ HBO เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า The Rains of Castamere คือตอนซีรียส์ที่ถูกกล่าวถึงบนโลกโซเชียลมากที่สุด โดยถูกกล่าวถึงมากกว่า 7 แสนครั้งตั้งแต่ช่วงวันอาทิตย์ที่ 2 ถึงวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา
การกล่าวถึง The Rains of Castamere มากกว่า 700,000 ครั้งเกิดขึ้นบนเครือข่ายทั้ง Twitter, Facebook, เว็บบล็อก, เว็บไซต์ข่าว, กระทู้ และบริการแชตออนไลน์ ซึ่งทำให้ The Rains of Castamere สามารถครองแชมป์ social buzz หรือเรื่องราวที่ชาวโซเชียลทั่วโลกให้ความสนใจมากกว่าตอนซีรียส์แชมป์เก่า ใน Game of Thrones ซีซัน 3 และซีรียส์ฮ็อตอย่าง True Blood ซีซัน 5 ที่ HBO ฉายและได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดียช่วงก่อนหน้านี้
เนื้อหาของคำบอกเล่าถึง The Rains of Castamere บนโซเชียลนั้นมีทั้งแง่ชื่นชม และแง่ตลกล้อเลียน เรียกว่าหลากหลายและเพิ่มอรรถรสในการรอชมตอนต่อไปอย่างน่าสนใจ
HBO ระบุว่าคำนวณสถิติ 7 แสนครั้งตั้งแต่ช่วงเวลา 7 p.m. EDT ของวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนถึง 7 p.m. ของวันจันทร์ ซึ่งในประเทศไทยตรงกับช่วงเวลา 6 โมงเช้าของวันจันทร์ที่ 3 ถึง 6 โมงเช้าของวันอังคารที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับช่วงเวลาฉากไฮไลท์ ‘Red Wedding’ รายงานระบุว่าปริมาณการสื่อสานบนโซเชียลนั้นเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับสถิติในตอนก่อนหน้า ถือเป็นกรณีศึกษาที่อุตสาหกรรมบันเทิงทั่วโลกไม่ควรมองข้าม
สำหรับ “Red Wedding” นั้นเป็นฉากงานแต่งงานสุดโหดซึ่งถ่ายทอดจากเรื่องราวในหนังสือชื่อ A Song of Ice and Fire ซึ่งเป็นภาคต่อนิยายที่นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ซีรียส์เรื่องดังที่ครองใจคนทั่วโลก
ทราบแบบนี้แล้ว ผู้สร้างซีรียส์ในประเทศอื่นๆ อย่าลืมนำกรณีนี้ไปศึกษาเพื่อทำการตลาดให้ซีรียส์ในอนาคตล่ะ
สำหรับเมืองไทย กองบก. thumbsup สังเกตว่าเราก็มีกระแสออนไลน์กับละครแนวซีรี่ยส์ “คุณชายทั้ง 5” ค่อนข้างมาก คนไทยชอบความบันเทิงอยู่แล้ว ของแบบนี้เราไม่แพ้ใคร แม้กระทั่งละครซีรี่ยส์อย่าง HORMONES วัยว้าวุ่น ของ GMM One TV (โดยทีมงาน GTH) ตอนนี้ก็มีคนดูกันตั้งตอนละ 400,000 วิวแล้ว กระแสบนโลกโซเชียลก็ไม่แพ้ใครนะครับ ไม่เชื่อลองเปิดตาม Facebook, Twitter ดู
ที่มา : Mashable