Site icon Thumbsup

นักการตลาดว่าไง?? เมื่อผู้บริโภคอยากได้โฆษณาออนไลน์ที่สั้นกว่าทีวี

38% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาคิดว่าโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ควรสั้นกว่าในทีวี ขณะที่อีก 7% มองว่าโฆษณาออนไลน์ควรยาวกว่านี้ 

ผลวิจัยจาก Kantar Millward Brown ได้ให้ข้อมูลว่า 1 ใน 4 ของผู้บริโภคคิดว่าความยาวของโฆษณาทางทีวีและออนไลน์ควรจะเหมือนกัน แต่ควรตัดเนื้อหาให้เร็วขึ้น เพราะความตั้งใจในการรับชมแตกต่างกัน ในขณะที่ 15% คิดว่าโฆษณาออนไลน์ควรแสดงชื่อแบรนด์ให้ทราบก่อนจะนำเสนอเนื้อหา อีก 17% มองว่าโฆษณาออนไลน์มีความเสี่ยงสูงกว่าในทีวี อีก 13% มองว่าโฆษณาออนไลน์ควรจะกำหนดอายุของผู้ชมและกลุ่มเป้าหมายให้ชัดได้ดีกว่านี้ และ 11% คิดว่าโฆษณาออนไลน์ควรที่จะมีตัวแทนคอยช่วยตรวจสอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ชมแต่ละกลุ่มมากขึ้น

การเก็บข้อมูลจากการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ในครั้งนี้ จะช่วยให้แบรนด์เจ้าของสินค้า มีเดียเอเจนซี่ และสถานีโทรทัศน์ ทราบถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคว่าที่จริงแล้วโฆษณา ควรมีความยาวที่ 15, 30 หรือ 60 วินาที กันแน่

การศึกษาตลาดครั้งนี้ยังบอกอีกว่า ผู้บริโภคมากกว่า 1 ใน 3 มีความสนใจในโฆษณาสั้นกว่าเดิม ทำให้แบรนด์ต้องนำเสนอคอนเทนต์ที่รับชมแบบเจาะจงในแต่ละแพลตฟอร์ม หรือตัดต่อให้เหมาะกับแต่ละช่องทาง ซึ่งการลงทุนโฆษณาแบบสั้นน่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา โดย 58% ของนักการตลาดเห็นด้วยที่จะตัดเนื้อหาให้สั้นลงอีก

หลายแบรนด์ประสบความสำเร็จด้วยคลิปโฆษณาสั้นๆ ที่โฟกัสกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน เช่น yoplait ที่มีโฆษณาย่อยที่ต่างกัน 6 ชิ้น เพื่อส่งให้กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม และผู้ชมก็สามารถเลือกรับชมวีดีโอที่ยาวขึ้นหรือรับส่งข้อความแก่แบรนด์ให้รับทราบได้ด้วย

โดย CNBC อ้างถึงข้อมูลของ ComScore บอกว่านักการตลาดสามารถเลือกที่จะส่ง message ให้แก่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มแบบกำหนดเป้าหมายได้อย่างเหมาะสมภายใต้เวลาเพียง 5-6 วินาที ในขณะที่ ผู้บริโภคเองก็ต้องการวีดีโอที่สั้นและกระชับมากขึ้น ซึ่งนักการตลาดเน้นไปที่การสร้างแคมเปญที่มีคุณภาพสูงและทำกำไรได้ดีกว่า การถ่ายทอดเนื้อหาสินค้าที่ยืดเยื้อ รวมทั้งช่วยให้ลูกค้ามีการจดจำแบรนด์ได้ดีกว่า

แต่นักการตลาดเองมองว่า การทำวีดีโอที่สั้นลงทำให้ยากที่จะบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ทั้งหมดได้อย่างเหมาะสมและต้นทุนการผลิตก็ไม่ได้น้อยกว่าวีดีโอแบบยาวเลย

 

ที่มา : marketingdive