Site icon Thumbsup

พักผ่อนแค่ไหนก็เหนื่อยอยู่ดี เมื่อการบริหารพลังงานเป็นสิ่งจำเป็นของการทำงานยุคใหม่

เคยไหมนอนหลับเต็มอิ่ม แต่ตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกอ่อนเพลีย หงุดหงิด หรือยังต้องเติมกาแฟทั้งเช้าทั้งบ่ายเพื่อให้สามารถทำงานต่อไปได้

แน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมชาติเมื่อเราเหนื่อยจากทำงานมาทั้งวันหรือออกกำลังกาย แต่การเหนื่อยล้านั่นต่างออกไป ไม่ว่าเราจะพักผ่อนแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่ามีพลังงานเพียงพอไปจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้ แล้วอาการเหนื่อยล้าเป็นยังไง การบริหารพลังงานต้องทำแบบไหน วันนี้ Thumbsup พาไปหาคำตอบกันครับ

อาการเหนื่อยล้า เป็นสาเหตุหลักของการหมดไฟและลาออกของคนทำงานในยุคปัจจุบันหากเกิดสัญญาณบางอย่างเหล่านี้ อาจเป็นไปได้ว่าเรากำลังมีปัญหากับบริหารพลังงานแล้ว 

เวลาเป็นทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด พลังงานก็เช่นกัน ซึ่งตามหลักแล้วพลังงานของเรามาจาก ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และจุดมุ่งหมาย การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพจะส่งผลทางบวกทั้งทัศนคติ ความสามารถ และความยั่งยืนในการทำงาน บทความนี้จึงขอมุ่งเน้นไปที่การบริหารพลังงานในแต่ละส่วน ดังนี้

ร่างกาย: พลังงานทางกายภาย

การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการดูแลโภชนาการเป็นพื้นฐานของการดูแลร่างกายให้สามารถรับมือกับการเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน

การพักระหว่างวันเป็นการรักษาพลังงานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการลุกไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน การเดินเล่นรอบๆ ออฟฟิศ ไม่เพียงแต่ทำให้ได้พักสมองและอารมณ์ แต่ยังเป็นเวลาที่ผู้คนมักได้ความคิดสร้างสรรค์ที่ดีที่สุดด้วย

อารมณ์: คุณภาพของพลังงาน

เราจะทำงานได้ดีเมื่อรู้สึกมีพลังบวก แต่เมื่อเผชิญกับปัญหาและความท้าทายตลอดทั้งวันทำให้เข้าสู่อารมณ์ด้านลบ หงุดหงิด ร้อนใจ และวิตกกังวัล

การทำงานทุกอย่างย่อมเจอปัญหาอยู่แล้ว ดังนั้นทางออกจึงไม่ใช่หนีปัญหา แต่เป็นการเปลี่ยนมุมมองของปัญหา เช่น ‘หากผ่านปัญหานี้ไปแล้วเราจะรู้สึกอย่างไรเมื่อมองย้อนกลับมา’ ‘ไม่ว่าผลลัพธ์ของปัญหานี้จะเป็นยังไง เราย่อมเติบโตและเรียนรู้จากมัน’ การเปลี่ยนมุมมองช่วยปรับอารมณ์ไปในด้านบวกและเห็นทางออกของปัญหาได้ง่ายขึ้น

จิตใจ: จุดโฟกัสของพลังงาน

การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Nultitasking) เป็นเรื่องปกติธรรมดาในหลายบริษัทหลายตำแหน่ง แต่มันเป็นสิ่งที่บั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน และมีต้นทุนสูงมากกว่าที่คิด การเปลี่ยนความสนใจจากงานหนึ่งไปอีกงานหนึ่งเพิ่มระยะเวลาการทำงานถึง 25%

การจัดลำดับความสำคัญของจึงเป็นวิธีบริหารพลังงานในส่วนของจิตใจได้เป็นอย่างดี โดยเราขอหยิบยกวิธีจัดการงานด้วยวิธีที่เรียกว่า Eisenhower Box โดยการแบ่งงานออกเป็น 4 ประเภท

  1. งานสำคัญและด่วน เป็นงานที่ต้องทำทันที
  2. งานสำคัญแต่ไม่ด่วน เป็นงานที่สำคัญก็จริง แต่เก็บไว้ทำทีหลังได้
  3. งานไม่สำคัญแต่ด่วน เป็นงานที่ให้คนอื่นทำแทนก็ได้ หรือไม่ต้องรีบทำก็ได้
  4. งานไม่สำคัญและไม่ด่วน เป็นงานที่ควรทำในเวลาที่เสร็จสิ้นจากทุกอย่างแล้ว

จิตวิญญาณ: เป้าหมายในการใช้ชีวิต

งานที่ดี คือ งานที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย หรืออย่างน้อยเราก็รู้ว่ากำลังทำงานนี้ เพื่อให้เราเติบโตไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ แต่ถ้าหากงานไม่ใช่ตัวเรา และตัวตนของเราไม่ได้มีแค่เรื่องงาน ก็ยังมีวิธีอื่นที่ช่วยรักษาจิตวิญญาณได้

ค้นหาสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุดและสิ่งที่คุณชอบมากที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเดียวกัน เราอาจได้รับคำชมมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ทำได้ดีแต่ไม่เราได้ชอบขนาดนั้น ในทางกลับกัน เราสามารถรักการทำบางสิ่งบางอย่าง แต่ไม่มีผลตอบแทนหรือรางวัล 

ผลลัพธ์ของการหาสองสิ่งนี้เจอคือสามารถทำงานได้โดยไม่หมดไฟ และยังสามารถมีความหมาย/เป้าหมายในการใช้ชีวิตได้นั่นเอง

 

ที่มา

HBR

NCBI

Interpharma