เมื่อปลายเดือนก่อน ผมลองตั้งคำถามไว้ว่า “จริงหรือไม่ที่คนสมัยนี้สมาธิสั้น จึงควรจะทำ Content ให้สั้นเข้าไว้?” ปรากฏว่ามีเพื่อนๆ thumbsupers ให้ความสนใจราวๆ 20 ท่าน ได้มาพูดคุยกัน เพื่อหาข้อสรุปกัน ผมจึงขอเอามาใส่ไว้ในที่นี้เพื่อเป็นการตอบคำถามที่เคย Crowdsource ออกไปนะครับ [สรุปสั้นๆ ได้ว่า ที่จริงแล้ว ความยาว และความสั้น เป็นเพียงตัวแปรหนึ่งในการดึงความสนใจเท่านั้น แต่ทุกคนมีความเห็นและตรรกะที่น่าสนใจหลายอย่างเลยครับ เช่น ตัวผู้พูด Content นั้น, และคุณภาพของ Content นั้นๆ ด้วย]
ทวนของเก่า: ผมเคยคิดและเชื่อว่า คนเราสมัยนี้สมาธิสั้นลง เพราะพวก smartphone ทำให้เรามีพฤติกรรมการเสพ Content แบบ Scan บวกกับฝรั่งเขาวิจัยและบอกมาว่าคนเรายุคนี้สนใจกับอะไรได้แค่ 8 วินาที หรือจะเปรียบให้เห็นภาพคือ สั้นพอๆ กับปลาทอง ดังนั้นเรานักการตลาดและนักประชาสัมพันธ์ทุกคนจึงควรฉกฉวยความสนใจของคนดูหรือผู้บริโภคให้ได้ภายใน 8 วินาที ว่าแต่มันจริงหรือ?
มานั่งคิดสะระตะแล้ว แต่ผมมีข้อถกเถียงในใจอย่างหนึ่งว่า เหตุผลที่คนที่เขาไม่สนใจ และให้เวลาเราแค่ 8 วินาที เป็นเพราะ Content เรามันห่วย และไม่ต่างอะไรกับ Brand Spam หรือเปล่า? ผมเคยเจอเด็กมาสมัครงาน ผมถามเล่นๆ ว่า ทำ Content แบบไหนคนบน Social ถึงจะชอบ น้องตอบผมมาว่าทำภาพสวยๆ 1 รูปแล้วมีคำประกอบสั้นๆ พอ คนจะมีปฎิสัมพันธ์มากขึ้น
ผมถามกลับไปว่าแล้วทำไมเรานั่งดูรายการวู้ดดี้ได้ยาว? เรานั่งดูละครหลังข่าว หนัง Civil War ได้เป็นชั่วโมง ดังนั้นมันก็พิสูจน์ได้แล้วสิว่าคนเรามีสมาธิจดจ่อกับอะไรได้นานอยู่ หาก Content นั้นมันดีจริง น้องคนนั้นตอบต่อไม่ได้ และผมเองก็ไม่แน่ใจ อยากรู้ความคิดเห็นของพวกเราครับว่า เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยว่าในวันที่คนสมาธิสั้น เราจึงควรจะทำ Content ให้สั้นลง หรือไม่? เพราะอะไร?
นี่คือความคิดเห็นของเพื่อนๆ thumbsupers ครับ ขออนุญาตปรับคำให้เข้าใจง่าย และสะกดถูกต้อง พร้อมระบุชื่อเจ้าของความเห็นไว้นะครับ ผมแบ่งเป็น 3 กลุ่มนะครับ กลุ่มที่ 1 วิเคราะห์เจาะลึก และให้ความเห็นว่าแล้วแต่ปัจจัย กลุ่มที่ 2 มองว่าแล้วแต่ความเหมาะสมในบริบทนั้นๆ กลุ่มที่ 3 เห็นด้วยว่าต้องสั้น และให้เหตุผลประกอบ
กลุ่มที่ 1 วิเคราะห์เจาะลึก และให้ความเห็นว่าแล้วแต่ปัจจัย
1. การ Get Attention ตัวนี้จะเป็นการพาดหัวด้วยข้อความที่น่าสนใจหรือรูปที่ดึงดูดนี่แล้วแต่ ซึ่งตัวนี้ผมว่า user ให้เวลาแค่ 8 วินาที อย่างที่คุณว่า
2. Content ทีนี้ถ้าคนสนใจแล้วก็จะมาอ่าน content กัน ผมชอบที่คุณถามน้องคนนั้นว่า “ทำไมเราดู Civil War ได้ยาวๆ?” ถ้าเปรียบเทียบกัน trailer หนังก็เหมือนพาดหัวให้ได้ Attention พอคนสนใจถึงยอมเดินเข้ามาดูอีก 2 ชม. ทีนี้ไอ้ 2 ชม. นี้มันก็ต้องมีลูกเล่นอีก.. จะเสนอให้ตื่นเต้นตลอดเรื่องก็จะเหนื่อยไป จะเนิบนานไปคนก็อาจจะเดินออก.. ไม่ต่างจากการเขียน Content ดังนั้นหนัง/ Content จะยาวจะสั้นไม่สำคัญแล้วครับ แต่สำคัญว่าเราดึงเค้าให้อยู่กับเราได้นานขนาดไหน .. หนังบางเรื่อง 3ชม. Content บางตัวยาวมาก ก็ยังดูยังอ่านเลย
3. สุดท้ายคือ Branding /Credit ของเจ้าของ Content เอาเข้าจริงๆ ตัวนี้สำคัญมาก ขึ้นชื่อมาว่าเป็น Captain America อาจจะไม่ต้องดู Trailer คนก็เข้าโรงแล้ว.. หรืออย่าง HBR ที่นำเสนอเนื้อหามีสาระน่าเชื่อถือ บางทีหัวข้อไม่ตื่นเต้นมาก หลายคนก็ยังจะอ่านยาวๆ ได้ทุกวัน”
Jirapa Vorasinkul “ปัจจัยของ Content ที่สามารถดึงให้เราอ่านได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความยาวหรือความสั้นของ content ซะทีเดียวค่ะ (อันนั้นเป็นผลพลอยได้ หากสั้นแล้วให้อะไรกับเราก็ถือว่าดีไป) แต่สิ่งที่ดึงให้เราให้เวลากับ content นั้นๆ ได้เกิน 8 วินาที หรือ ได้ภายใน 8 วินาทีแรก… น่าจะเป็น
1. Content นั้นถูกพูดโดยใคร? – การที่คนนั่งดูรายการวู้ดดี้ได้ยาว อาจเพราะคนรู้ว่า Content ที่วู้ดดี้พูด จะให้ความชัดเจน ขุดคุ้ย รู้ลึกเรื่องคนในวงการบันเทิงกลับมา ดังนั้นต่อให้ไม่ว่าวู้ดดี้จะพูด Content อะไร ยาวแค่ไหน คนที่ชอบก็ยินดีจะเสพย์ ในขณะเดียวกันถ้า Content นี้ถูกพูดโดยคนอื่น อาจจะไม่มีน้ำหนักที่ทำให้คนสนใจและไถผ่านไป หรือแม้กระทั่งโพสต์นี้หากไม่ใช่ thumbsup ถาม เราก็คงไม่อ่าน หรืออ่านไปก็อาจไม่เข้ามาตอบ ดังนั้นปัจจัยที่ว่า Content ถูกพูดโดยใคร จึงเป็นสิ่งที่ดึงเราให้อ่าน Content ได้ใน 8 วินาทีแรกค่ะ
2. Topic content คืออะไร? – อันนี้เหมือนเป็นท่อน hook ของเพลง ถ้าจั่วหัวมา hook เราแล้ว เนื้อหาจะสั้นจะยาว เราก็พร้อมที่จะอ่านรายละเอียดต่อๆ ไป แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่า Content นี้มาจากใคร (แล้วค่อยตามไปหาที่มาที่ไป ถ้าน่าสนใจก็ follow ซะเลย ^^)
3. ภาพประกอบดึงดูด และสัมพันธ์กับ Content – ปัจจัยสุดท้ายที่ดึงให้เราสนใจ content ได้ภายใน 8 วินาที คงเป็นภาพสวยๆ อย่างที่คนที่มาสมัครงานเข้าใจ แต่จะอ่านต่อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่า Topic และ Content ไปกับภาพหรือเปล่า? ซึ่งถ้าหากมีความเวิ่นเว้อ ไม่มีประเด็น ภาพสวยๆ อาจถูกแคปไว้เป็นการอ้างอิง ว่าภาพสวยดีทุกครั้งที่ไถมาเจอ แต่คงไม่ให้เวลาเกิน 8 วินาทีก็เป็นได้ค่ะ”
กลุ่มที่ 2 มองว่าแล้วแต่ความเหมาะสมในบริบทนั้นๆ
Atthaporn Ojazzy Chanprakon “Content สั้นลงทำให้บริโภคสะดวกอยู่ครับ อย่างไรก็ตาม คนจะจดจ่อกับ Content หรือไม่ ผมว่าต้องพิจารณาบริบทอื่นๆ ร่วมด้วยครับ เช่น คนที่ดูเป็นกลุ่มเป้าหมายของ Content หรือไม่ ถ้าใช่ก็มาดูชนิดของ Content ตัว Content ว่าเล่าเรื่องอย่างไร ใช่อย่างที่กลุ่มเป้าหมายสนใจหรือไม่ วิธีเล่าสอดคล้องกับธรรมชาติของช่องทางนั้นหรือเปล่า จังหวะและเวลาในการนำเสนอเป็นอย่างไร ฯลฯ สรุปแล้วความยาวความสั้นเป็นเพียงตัวแปรหนึ่งเท่านั้นครับ :)”
Kornkorranat Wiratsin “ไม่จำเป็นต้องสั้น แต่ต้องตอบตอบโจทย์ให้ได้ว่า Content นั้น Brand นั้น จะช่วยเหลือผู้เหลือผู้บริโภคได้อย่างไร เป็นประโยชน์ต่อเขารึปล่าว (ในช่วงเวลานั้น)”
Mike Luangtrirat “ในมุมมองผม ผมว่า 8 วินาที อาจเป็นช่วงเวลาในการดึงความสนใจนะครับ หากแต่ Content นั้นๆ มีคุณค่าเหมาะกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ก็น่าจะทำให้เขาสามารถให้เวลากับมันมากขึ้นครับ สิ่งสำคัญอาจอยู่ที่การพาดหัว / เลือกรูปที่ดี / หรือการดึงจุดเด่นของวิดีโอทั้งเรื่องมาให้คนสนใจในแว๊บแรกๆ ซึ่งนั่นอาจจะต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้ดูแลครับ ส่วน Content จะสั้นลงหรือยาวขึ้น อันนี้ผมว่าอยู่ที่ว่าเราจะออกแบบให้เป็นแบบไหน กับกลุ่มไหนครับ”
Somying L Jingabell “ในช่วง 8 วินาที น่าจะเป็นวินาทีทองในการดึงความสนใจมากกว่า ถ้า 8 วิฯ ของเราได้ผล คนก็อยู่ดู Content เราได้ต่อ แต่อย่าลืมว่า Content เราต้องดึงคนดูให้อยู่ด้วย ไม่ใช่ดีแค่ 8 วินาทีแรก”
กลุ่มที่ 3 เห็นด้วยว่าต้องสั้น
Winyu Kinghiranwatana “ความสั้นยาวของ Content ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ชมสมาธิสั้นหรือยาว แต่ขึ้นกับว่า ผู้ชมควบคุมการดู Content ได้มากน้อยขนาดไหน ถ้าคุณทำ Content ที่ผู้ชมควบคุมการดูได้เองมาก Content ที่สั้นกระชับ ก็จะได้เปรียบ (สังเกตว่า ที่บอกว่า Content 8 วินาที ส่วนใหญ่ในหัวคนพูด จะคิดถึง Online content ซึ่งผู้ชมสามารถกดปิด หรือเลื่อนหน้าจอหนีได้เร็วมาก) หรืออย่าง Print Ad ที่แต่ไหนแต่ไรมา ก็ต้องใช้ภาพหรือข้อความปังๆ มาตลอดทุกยุคทุกสมัย
“ถามว่า เพราะคนสมัยก่อนสมาธิสั้นหรือเปล่า ก็ไม่น่าใช่ แต่เพราะคนสามารถพลิกหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร (เพื่อหนี Ad) โดยใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น และดังนั้น ที่คนดูวู้ดดี้หรือ Civil war ได้นานๆ จึงไม่ใช่เพราะมีสมาธิยาว แต่เพราะไม่สามารถ “กรอ” สิ่งที่ดูให้ข้ามตอนที่ตัวเองไม่อยากดูได้นั่นเอง (ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคนสมัยนี้ ถ้าคนสมัยก่อนสามารถ “กรอ” ทีวีหรือหนังได้ ผมว่าพวกเขาก็จะอยาก “กรอ” เหมือนกัน)
“สรุปคือ Content สมัยนี้ต้องสั้น ก็เพราะคนดูควบคุมการรับ Content ของตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้นเอง”