พนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งประจำในออฟฟิศหรือมีการเคลื่อนไหวตัวน้อย เคยกังวลเรื่องสุขภาพกันบ้างไหมคะ ส่วนตัวผู้เขียนเอง แม้จะชอบเดินไปมาตามจุดต่างๆ ในออฟฟิศ ออกไปซื้อของ ทานข้าวเที่ยง แต่เทียบกับการนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงานแล้ว เรียกว่ายังเดินน้อยกว่านั่งเสียอีก และแน่นอนว่าเป็นที่มาของโรคออฟฟิศซินโดรม ซึ่งการมีอุปกรณ์แจ้งเตือนบอกว่า “เดินบ้างได้แล้ว” ก็ช่วยดึงสติให้คุณเคลื่อนไหวเสียบ้าง
ทางผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายมากๆ เลยค่ะ (ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นเช่นต้องแต่งชุดสวยไปงานแต่ง ถ่ายรูปทางการ หรือออกงานสำคัญออฟฟิศ) แต่ชอบที่จะกินชาบูบุฟเฟ่ต์ ของปิ้งย่าง โดยเฉพาะชานมไข่มุกระหว่างวันและขนมขบเคี้ยวต่างๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้อ้วนสะสมรอบพุงได้ง่ายๆ
ถึงแม้ว่าจะใส่ Wearable ก็ยังไม่ได้ชอบที่จะออกกำลังกายมากขึ้นหรอกนะคะ แค่ช่วยให้รู้เรื่องสุขภาพมากขึ้นและไม่เพิกเฉยต่อการดูแลสุขภาพ รวมทั้งตั้งเป้าที่จะดูแลเรื่องสุขภาพให้มากขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่ Fitbit Charge3 ทำได้มากกว่านั้นคือจ่ายเงินได้ด้วย และนี่คือสิ่งที่น่าสนใจอยากจะมารีวิวให้กับคนที่สนใจ กำลังมองหาอุปกรณ์เพื่อสุขภาพได้อ่านกันค่ะ
กระตุ้นให้เดินมากขึ้น
หลังจากทดลองใช้มาเดือนกว่าๆ ตั้งค่าทุกอย่างตามที่ App Fitbit สั่งการ เอ๊ย ตั้งค่า สิ่งที่ชอบคือนอกจากเตือนให้เคลื่อนไหว เพราะชีวิตการทำงานของแต่ละคน บางทีต้องนั่งประชุมกันเป็นเวลานานๆ อาจไม่ได้เคลื่อนไหวตามอัตราที่ร่างกายต้องการ อาจเป็นที่มาของโรคอ้วนสะสมก็เป็นได้นะคะ
ช่วยจำช่วงเวลาสำคัญของหญิงสาว
แล้ว ยังช่วยจำเวลามีรอบเดือนด้วย ซึ่งการตั้งค่ารอบเดือนละเอียดไปอี๊ก นอกจากช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีแล้ว ยังระบุปริมาณของเลือดว่ามากน้อยแค่ไหน เลือดเป็นยังไง มาพร้อมอาการแบบไหน มีความเสี่ยงตั้งครรภ์รึเปล่า ซึ่งใส่ข้อมูลไปให้ครบก็ช่วยเตือนให้รู้ว่า หากมีอาการขึ้นๆลงๆ ด้านอารมณ์ ปวดท้องไม่สบาย ก็จะได้จัดการชีวิตได้สะดวกขึ้น และยังเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่ทำให้ว่าที่คุณแม่ได้ทราบด้วยว่า คุณกำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือไม่
จ่ายเงินได้แล้ว
สำหรับคนที่ขึ้เกียจพกกระเป๋าเงิน เวลาไปออกกำลังกายแล้วต้องการซื้อของ สามารถใช้จ่ายได้ง่ายขึ้นไม่ต้องพกของให้ยุ่งยาก แค่หาร้านค้าที่เปิดรับก็สามารถซื้อสินค้าได้แล้ว แต่คนเขียนยังไม่ได้ลองฟีเจอร์นี้เลย ทั้งที่ใจอยากลองมาก (นั่นเพราะเราไม่มีบัตรเคทีซี ฮ่าๆ) แต่มีร้านค้าที่เปิดให้ใช้งานได้หลากหลายมาก ทั้งโรงภาพยนตร์ ร้านอาหารอย่างแมคโดนัลด์ อาฟเตอร์ยู เอสแอนด์พี ฮอทพ็อต ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้งบิ๊กซีทั่วประเทศ กูร์เมต์มาร์เก็ต จิฟฟี่ ร้านการแฟอย่างคาเฟ่อเมซอน คอฟฟี่เวิร์ล เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่อง
- ประสบการณ์ด้านสุขภาพและฟิตเนสที่เหนือกว่า: ฟิตบิท ชาร์จ 3 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดการเต้นหัวใจที่ทันสมัยที่สุดของฟิตบิท (PurePulse®) เซ็นเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ (Relative SpO2 sensor) โหมดออกกำลังกายที่มีให้เลือกมากกว่า 15 โหมด สามารถใส่ว่ายน้ำได้iv แดชบอร์ดข้อมูลสุขภาพ การติดตามสุขภาพสำหรับสุภาพสตรี ฟังก์ชั่นติดตามการนอนในช่วงต่าง ๆ พร้อมข้อมูลวิเคราะห์ และประสบการณ์อื่น ๆ อีกมากมาย
- ดีไซน์หรู พรีเมียมเหนือระดับ: มาพร้อมคุณสมบัติการกันน้ำลึกได้ น้ำหนักเบาเพื่อการสวมใส่ที่พอดี สบาย และมีความทนทาน และเป็นครั้งแรกที่จะมาพร้อมกับปุ่มเหนี่ยวนำ (inductive button) ให้สัมผัสไว เสริมด้วยฟีเจอร์ในตัวเครื่องที่ใช้งานง่ายและตอบสนองดีขึ้น เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ฟิตเนสแทรคเกอร์ที่ฉลาดที่สุดของฟิตบิท: ไม่พลาดการติดต่อและไม่โดนรบกวน ด้วยฟีเจอร์ทันสมัยที่จำเป็นในยุคดิจิทัล เช่น การแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้มากขึ้น โหมดตอบกลับเร็ว (Quick Replies) สำหรับโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ (เปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้) แอปฯ ที่ใช้สะดวกสำหรับทุกวัน และระบบการชำระเงิน ”ฟิตบิท เพย์” ตรงจากข้อมือใช้งานง่ายและปลอดภัย พร้อมทั้งแบตเตอรีที่ใช้ได้นานถึง 7 วันv
ราคาและการวางจำหน่าย
ฟิตบิท ชาร์จ 3 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 6,490 บาท ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วไปเช่น บีทูเอส ร้าน.Life คิงพาวเวอร์ พาวเวอร์บาย วีมาร์ท และลาซาด้า มีจำหน่ายทั้งแบบสีดำพร้อมกรอบอะลูมีเนียมกราไฟต์ หรือสีบลูเกรย์พร้อมกรอบอะลูมิเนียมสีชมพูโรสโกลด์ อุปกรณ์เสริมราคาระหว่าง 990-1,890 บาท และรุ่น Special Edition ในราคา 6,990 บาท
บทความนี้เป็น Advertorial