เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่การถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอที่นอกจากเราสามารถที่จะเก็บภาพที่ความละเอียดสูงๆ ได้แล้ว ในยุคนี้ที่ระบบไร้สายและเทคโนโลยีฝั่งซอฟต์แวร์ก้าวล้ำมากๆ เราก็สามารถที่จะเก็บภาพในมุมสูงหรือมุมกล้องเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระอีกด้วย วันนี้เราลองมาดูอุปกรณ์ที่จะช่วยในเรื่องดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจ นั่นก็คือเจ้า Phantom 2 Vision นั่นเอง
ต้องออกตัวก่อนว่าทีมงาน thumbsup เราจะไม่วิเคราะห์กันเรื่องตัวฮาร์ดแวร์ เพราะคุณผู้อ่านสามารถอ่านได้ตามเว็บบอร์ดทั่วไป หรือใน YouTube ก็มีคลิปให้ดูอยู่มากมาย หรือถ้าใครอยากดูเว็บคนขายในไทยอย่างเป็นทางการก็เข้าไปดูกันได้ที่ Phantom Thailand แต่วันนี้เราจะมาเขียนเล่าให้อ่านกันในมุมมองของคนใช้งานที่ไม่เคยเล่นมาก่อนเลย เผื่อผู้อ่านจะได้เห็นภาพชัดขึ้นครับ
เริ่มแรกหลังจากที่เราได้รับตัวเครื่องจากทีมงาน Phantom Thailand มาทดลอง ก็ได้รับคำแนะนำให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่น “dji-vision” ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งบน iOS และ Android โดยเจ้าแอปพลิเคชั่นนี้จะเป็นตัวสั่งบังคับการหันกล้อง, เป็นตัวแสดงภาพสดๆ รวมถึงเป็นตัวสั่งงานการถ่ายรูปและวิดีโอ โดยมันจะต้องทำงานร่วมกับตัวรีโมทคอนโทรลหลักที่ทำหน้าที่บังคับตัวเครื่องบินทั้งทิศทางและการขึ้น-ลงของเครื่อง
เมื่อเอาทั้งสมาร์ทโฟนและรีโมทคอนโทรลมารวมกันจึงจะเป็นตัวบังคับอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในการทำงานนั้น ตัวบังคับหลักจะใช้สัญญาณวิทยุในการบังคับเครื่องบิน ในขณะที่สมาร์ทโฟนจะบังคับผ่านสัญญาณ WiFi ที่เชื่อมกับตัวรับส่งบนเครื่องบินอีกทีหนึ่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนจับสัญญาณ WiFi ให้ได้ก่อน มิเช่นนั้นหากสัญญาณไม่ล็อคแล้ว การบังคับจะทุลักทุเลและเสี่ยงต่อการพาเครื่องบินไปสู่จุดจบมากๆ
หลังจากเชื่อมสัญญาณทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราจะสามารถมองเห็นภาพจากกล้องบนเครื่องบินผ่านตัวแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้ทันทีแบบ real-time และนี่จะเป็นตัวช่วยให้การบังคับง่ายขึ้นอย่างมาก พอจะเริ่มใช้งาน เราต้องดูให้ชัดว่าสัญญาณไฟบนตัวเครื่องเป็นสีเขียวหรือยัง ซึ่งนั่นหมายถึงสัญญาณถูกเชื่อมและล็อคไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว จากนั้นก็เริ่มนำเครื่องขึ้นได้ทันทีโดยโยกคันโยกทั้ง 2 ลงด้านล่างพร้อมๆ กัน แต่สิ่งที่สำคัญก็ต้อง เราต้องหันตัวเครื่องให้มุ่งไปยังทิศเดียวกับที่เรายืน ไม่หันหน้าเข้าหาคนบังคับเด็ดขาด เพราะทิศจะผิดเพี้ยนและมือใหม่อาจจะงงได้ง่ายๆ
เมื่อเครื่องขึ้นแล้ว เราจะเห็นไฟด้านล่างที่คอยกระพริบทำให้เราเห็นได้ง่ายๆ ว่าเครื่องอยู่ที่ไหนและสัญญาณยังดีอยู่หรือไม่
จากนั้นก็บังคับขึ้นลง ซ้ายขวา ได้ตามใจปรารถนาเลยครับ
และภาพต่อไปนี้คือผลลัพธ์ที่ได้จากการพา Phantom 2 Vision ไปเที่ยวหัวหินมา โดยพื้นที่ในภาพคือโรงแรม Amari ที่บังเอิญต้องมาเป็นฉากสำหรับการทดสอบแบบจำเป็น ซึ่งทีมงานเราต้องการถ่ายภาพเพื่อการทดสอบการใช้งาน Phantom เท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการถ่ายภาพบุคคลหรือสถานที่เพื่อเหตุผลอื่นใดทั้งสิ้นครับ
ภาพจากกล้องบนตัวเครื่องก่อนการ take off
ถ่ายย้อนมองตัวคนบังคับ โดยถ่ายริมทะเลแบบมีลมเบาๆ ตัวเครื่องบินก็ถือว่าค่อนข้างเสถียร ไม่เป๋ตามลม
ส่งมันออกไปกลางทะเลเลย ระยะประมาณ 50 เมตรจากฝั่ง คนบังคับลุ้นระทึกมากเพราะเพิ่งเคยเล่นครั้งแรก
ถ่ายย้อนกลับเข้าฝั่ง ซึ่งถ้าใช้ระบบอัตโนมัติ หากคนบังคับปล่อยมือ มันจะอยู่กับที่ สามารถปล่อยมือได้
ย้ายสถานที่ทดสอบมาภายในพื้นที่โรงแรม ได้ภาพสีสดใสมากๆ
ลองลดระดับลงไปเพื่อเก็บภาพระยะใกล้ขึ้น
คราวนี้ลองไต่ระดับขึ้นไปให้สูงกว่าตัวตึกเลย
ทดลองใช้งานตอนกลางคืนดูบ้าง ซึ่งก็สามารถเก็บภาพมาได้ค่อนข้างดีแม้ในสภาพแสงน้อยมากๆ
จากการทดลองเล่นมา สิ่งที่ได้สัมผัสก็คือ
- ตื่นเต้นและเพลินมาก เราสามารถเก็บภาพในมุมที่ไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีอื่นๆ และนี่เป็นทั้งการถ่ายรูปและเล่นเครื่องบินบังคับไปพร้อมๆ กัน
- บังคับไม่ยากเลย ถึงจะดูมีหลายปุ่ม และต้องบังคับหลายแกน แต่พอใช้งานจริงมันค่อนข้างง่าย ใช้เวลาฝึกไม่นานก็บินได้แล้ว (สำหรับโหมดอัตโนมัติ)
- แบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นานนัก ประมาณ 20 – 30 นาทีต่อแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็ม 1 ก้อน
- รูปที่ได้คุณภาพค่อนข้างดี แต่ได้มาแบบมีเลนส์ไวด์ติดมาด้วย
น่าเสียดายที่รอบนี้เราไม่ได้ทดลองการถ่ายวิดีโอมาด้วยเพราะฝีมือคนบังคับยังอ่อนหัดนัก แต่คุณผู้อ่านที่สนใจลองดูภาพที่ได้ในคลิปนี้ได้ครับ
และสำหรับใครที่สนใจก็ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปค ความสามารถ และโปรโมชั่นกันในเว็บได้ที่ Phantom Thailand หลังจากนี้ไป ถ้าใครได้เล่นแล้วมีรูปหรือวิดีโอมุมกล้องสวยๆ ก็เอามาแบ่งกันดูบ้างนะครับ
สรุปปิดท้าย
ในแง่ของการเป็นอุปกรณ์ช่วยการถ่ายภาพและวิดีโอ มันช่วยให้เราสามารถเก็บภาพสวยๆ ในมุมที่น่าตื่นเต้นได้มากกว่าเดิม รวมทั้งช่วยเก็บในมุมที่ไม่มีวิธีอื่นในการเข้าถึงได้ด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้เราสามารถเข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ ได้ดี และไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงเท่านั้น ในแง่ของการรายงานข่าว, การเก็บข้อมูลพื้นที่, การรายงานสภาพอุบัติเหตุหรือภัยต่างๆ ก็อาจจะทำได้ดียิ่งขึ้นและคนทั่วๆ ไปก็สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนั้น หากเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ก็สามารถที่จะยกระดับคุณภาพงานให้แตกต่างจากการถ่ายภาพเดิมๆ ได้ด้วย อย่างไรก็ดี ในการใช้งานอุปกรณ์ประเภทนี้ สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็ได้แก่ความปลอดภัยทั้งของตัวผู้บังคับ ผู้ที่อยู่ใกล้เคียง รวมไปถึงการก่อให้เกิดอุบัติเหตุอื่นๆ ในพื้นที่ใช้งาน และที่สำคัญที่สุดไม่แพ้กันก็คือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบถ่ายในพื้นที่หรือเวลาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้เช่นกัน อย่างไรก็ต้องใช้วิจารณณาณในการใช้งานกันด้วยนะครับ
ขอขอบคุณทีมงาน Phantom Thailand ที่ให้ยืมอุปกรณ์มาทดสอบ และขอขอบคุณโรงแรม Amari หัวหินที่ให้เราทดลองเล่นได้ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะไล่ให้เราเก็บเพราะอาจจะรบกวนแขกท่านอื่นๆ (อันนี้ขอบคุณเผื่อไว้เฉยๆ ครับ :D)