ก้าวเข้าสู่ปี 2012 หลายท่านคงเริ่มสังเกตว่าความร้อนแรงของตลาดสมาร์ทโฟนนั้น ยังคงไม่จางหายไป การแข่งขันของบรรดาผู้ผลิตยังคงมีและเป็นไปอย่างดุเดือด หลายค่ายออกรายการส่งเสริมการขายที่น่าสนใจ บางค่ายลดราคาเครื่องรุ่นเดิมที่ยังคาดว่าจะขายต่อไปในปีนี้ บางค่ายออกรุ่นใหม่เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ของตัวเอง
RIM หรือ Research In Motion ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ถูกจับตามอง และวิพากษ์กันอยู่พอสมควรกับสถานการณ์ และตำแหน่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขล่าสุดกำลังจะบอกว่า RIM มีสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรกันดี จะอยู่หรือจะไปกันล่ะ…
หลังจากได้มีโอกาสอ่านบทความเกี่ยวกับตัวเลขต่างๆ ของทาง RIM ผู้ผลิตมือถือสมาร์ทโฟนอย่าง BlackBerry และก็ได้พบว่าตัวเลขของ BlackBerry นั้นมีความน่าสนใจ อาจจะเพราะด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่เชื่อว่าหลายคนก็คงคิดไม่ต่างจากผมมากนัก นั่นคืออนาคตของ RIM นั้นจะไปได้ไกลอีกแค่ไหนกัน
ตัวเลขจาก ASYMCO ชี้ให้เห็นว่าตัวเลขยอดขายของ Blackberry ในไตรมาสแรกของปีนี้นั้นไม่ดีเอาเสียเลย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แถมยังมีรายงานว่ายอดรายได้จากบริการ BlackBerry Service ต่อเครื่องนั้นก็ลดลงไปเฉลี่ยถึงร้อยละ 4 เลยทีเดียว
นอกจากนี้นโยบายอย่างหนึ่งของ RIM คือการเริ่มลดราคาของตัวเครื่อง BlackBerry เพื่อหวังจะได้ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น แต่นั่นคงไม่ใช่แผนที่ดีนัก เพราะตัวเลขที่เห็นเป็นตรงกันข้าม หรือกระทั่งการออกรุ่นใหม่ เพื่อเรียกความน่าสนใจเหมือนเมื่อช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อน แต่นั่นก็เป็นแค่การช่วยระยะสั้นๆ เท่านั้น
แน่นอนว่าสำหรับเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของทาง RIM ก็มีการออกมาบอกเล่ากับสื่อโดยหัวเรืออย่าง?Thorsten Heins ซึ่งเป็นประธานบริหารคนปัจจุบันของ RIM โดยเขากล่าวว่า “RIM กำลังวางแผนเรื่องของการกลับไปเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ องค์กร และเน้นการลงทุนไปที่กลุ่มเหล่านี้เพื่อการกลับมาเป็นผู้นำในลูกค้ากลุ่มนี้ พวกเขาเชื่อว่า BlackBerry คงไม่สามารถครองใจผู้คนทุกๆ กลุ่มได้ ดังนั้นแผนดังกล่าวจะสร้างความแข็งแกร่งให้พวกเขา”
ซึ่งเมื่อย้อนหลังไปเมื่อ 6-7 ปีก่อน พวกเขาสามารถทำได้สำเร็จ พวกเขากลายเป็นผู้นำกับธุรกิจองค์กร จากการบุกเข้าสู่ภาคธุรกิจดังกล่าว ก่อนที่ในอีกไม่กี่ปีพวกเขาจะหันมารุกตลาดลูกค้าบุคคลมากขึ้น ด้วยการออกตัวเครื่องรุ่นใหม่ๆ ออกมาและเน้นระบบการแชทอย่าง BlackBerry Messenger โดยชูเอาบรรดาคนดัง เซเลบ หลายๆ คนมาเป็นต้นแบบ แต่ก็ต้องมาเจอตอไม้ขนาดใหญ่เมื่อแอพฯ ประเภทแชทออกมาอีกมากมาย (Whatsapp หรือ Line เป็นต้น)
ข้อคิดเห็นจากผู้เขียน:?แม้การรุกกลับมาเพื่อให้ได้ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดในภาคธุรกิจองค์กร แต่เชื่อว่านั่นอาจจะไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดนัก ผมยังมองว่าการบุกเข้าสู่กลุ่มลูกค้าบุคคลน่าจะเป็นเพียงหนึ่งแผนที่ใช้ดึงความสนใจ และส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเล็กน้อยเท่านั้น การสูญเสียตลาดในส่วนนี้ไปอาจจะไม่ใช่วิกฤตนัก เมื่อเทียบกับปัญหาภายในที่รุมเร้า RIM มาตลอดปีที่แล้ว จากองค์กรที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก กลับมีการขยายใหญ่จนเรียกว่าเกินตัว หรือไอเดียใหม่ๆ กับบริการที่จะเจาะเข้าหาผู้บริโภคที่สมัยก่อนมีให้เห็น กลับหายไปแม้ว่าองค์กรจะใหญ่ขึ้น การไม่ลงรอยกันของ CEO คนคู่ และอีกมากมาย
หาก RIM สามารถกลับมาได้ บอกได้คำเดียวเลยว่า Heins คงจะกลายเป็น Steve Jobs ที่เคยพา Apple กลับมาจากวิกฤต คนต่อไปได้เลยทีเดียว แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ คิดว่า RIM จะพ้นวิกฤตนี้ไปได้หรือไม่ และอะไรคือทางออกหรือทางแก้ปัญหาให้พวกเขาได้บ้าง มาแชร์ไอเดียกันครับ…
ขอบคุณข้อมูลสถิติจาก ASYMCO?มา ณ ทีนี้ด้วยนะครับ…
