RIM ได้ประกาศยอดขายที่แข็งแกร่งในกลุ่ม smartphone โดยอุปกรณ์ Blackberry ทำยอดขายได้ถึง 14.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ถึง 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากดูในรายละเอียดแล้ว RIM ได้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐ เนื่องจากผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้เทความนิยมไปยังโทรศัพท์ของ Apple หรือ Android platform มากกว่า โดยอนาคตอันใกล้ RIM ได้ฝากความหวังไปที่ PlayBook tablet ตัวใหม่ที่กำลังจะวางตลาดเพื่อจะกระตุ้นยอดขายและสร้างโอกาสที่ดีสำหรับบริษัท
ยอดขายโดยรวมแล้วถือว่าเป็นบวกสำหรับ RIM เราจะอารมณ์เสียได้อย่างไรเมื่อบริษัทฯ สามารถขายโทรศัพท์ได้เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันจากปีที่แล้ว แต่การเจริญเติบโตของ RIM ก็ไม่สามารถไล่ตามคู่แข่งได้ ยกตัวอย่างเช่น Apple เพิ่มยอดขายได้ถึง 90.5% จากปีที่แล้ว นำหน้า RIM ของยอดขาย handset ในตลาดโลก และติดอันดับมียอดขาย top5 ซัมซุง Galaxy S ทำยอดขายได้แล้ว 7ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน (ประมาณครึ่งหนึ่งของยอดขาย RIM ต่อไตรมาส) และยังมีแนวโน้มที่ยอดขายยังคงร้อนแรงต่อไป
แม้ว่าจะมีการแข่งขันหนักหน่วง RIM ยังคงมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ด้วยการเจริญเติบโตของตลาดต่างประเทศ โดยในปีที่แล้วรายได้จากตลาดสหรัฐคิดเป็น 57% ของรายได้รวมทั้งหมดของ RIM แต่จากรายงานล่าสุดในไตรมาสนี้ รายได้จากตลาดสหรัฐลดลงเหลือ 34% นั่นอาจหมายความว่ายอดขายในประเทศมีปัญหา หรือ RIM เพิ่มยอดขายได้อย่างมากในตลาดต่างประเทศ
นอกจากมองหาโอกาสทางธุรกิจในต่างประเทศ RIM ยังฝากความหวังไว้กับ Playbook tablet ที่คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2011 โดยกลยุทธ์ทางธุรกิจต่อ tablet ของบริษัทดูจะแตกต่างจาก Apple ซึ่ง Jim Basillie, CEO ของ RIM, กล่าวว่า ?Playbook ให้คำนิยามใหม่ของสิ่งที่ tablet ควรเป็น? จากความคิดเห็นและการสาธิต Playbook ก่อนหน้านี้ tablet ของ RIM มุ่งเน้นการตอบโจทย์ในกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นอันดับแรก และผู้บริโภครายย่อยเป็นอันดับสอง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ RIM นำเสนอใน Playbook ว่าจะกระตุ้นยอดขายจากการตอบโจทย์ทางธุรกิจ เช่น ช่วยให้พนักงานติดต่อกันได้เร็วและย่อมเยามากขึ้น และ RIM ยังคงแข่งขันกับ iPad ของ Apple แม้ว่า iPad จะได้รับความนิยมอย่างสูง มีการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรอย่างต่อเนื่อง และมีแอพลิเคชั่นทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นให้เลือกใน Appstore
RIM อาจจะเข้ามาช้าและเป็นผู้ตาม Apple ในตลาด tablet แต่ถ้า RIM สามารถแสดงให้เห็นถึงคุณค่ามากขึ้นที่องค์กรจะได้จากรับจาก PlayBook การมาช้าในครั้งนี้ก็ไม่อาจทำอันตรายกับธุรกิจ เพราะการเข้ามาเล่นในตลาด table ของ RIM ช้าไปเพียง 3 เดือน
ความเห็นผู้เขียน…มองว่า RIM ยังมีโจทย์อีกหลายข้อที่ต้องตีให้ขาด เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้งาน เพื่อยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดที่ตั้งเป้าเอาไว้ เพราะอะไรๆก็เป็นไปได้ สำหรับโลกแห่ง Gadget ใบนี้ คงต้องรอดูต่อไปสำหรับ PlayBook ที่จะออกมาตีตลาดว่าจะมีความสามารถ และตอบสนองการใช้งานได้อย่างที่ RIM ออกมาประกาศหรือไม่
ที่มา: businessweek