แม้จะสวมบทฮีโร่ในภาพยนตร์ Iron Man แต่ Robert Downey Jr. ก็ต้องการช่วยเหลือโลกในชีวิตจริงด้วย ความพิเศษคือ Downey Jr. ตั้งความหวังให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ AI และเครื่องกลหุ่นยนต์เป็นอาวุธหลักในการแก้ปัญหาวิกฤติโลกร้อน คาดว่าวิสัยทัศน์ของหนุ่ม Downey Jr. จะเป็นรูปร่างได้ภายในปีหน้า
Downey Jr. เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากการรับบท Tony Stark มหาเศรษฐีเพลย์บอยผู้ใจบุญที่สวมชุด Iron Man ในภาพยนตร์ Iron Man ออกมาช่วยเหลือโลกให้พ้นภัยจากวายร้ายในจักรวาลมาร์เวลอย่าง Thanos แต่ในชีวิตนอกจอ Downey Jr. ตัวจริงแสดงจุดยืนต้องการช่วยโลกของตัวเองโดยขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม RE:MARS (ย่อมาจาก Machine Learning, Automation, Robotics and Space) ที่ Amazon จัดขึ้นในลาสเวกัส เพื่อประกาศรายละเอียดองค์กรใหม่ที่เขาตั้งขึ้นเองในชื่อว่า Footprint Coalition
เป้าหมายของ Footprint Coalition คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีเพื่อช่วยโลกจากภัยมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้ขยายผลจากการที่ Downey Jr. ได้พบกับและพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่จุดประกายความคิด จนเกิดการรวมกลุ่มในโครงการนี้โดยที่ Downey Jr. ไม่ได้แสดงตัวแทนที่ผู้เชี่ยวชาญ แต่จะใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองเรื่องความสัมพันธ์กับผู้คนหรือ connection ที่จะเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญแต่ละฝ่ายให้มาพบกันเพื่อร่วมมือกันสางปมปัญหาวิกฤติโลกร้อนก่อนที่จะสายไป
ให้ชื่อเสียงช่วยโลก
ก้าวใหม่ของ Downey Jr. เกิดขึ้นตามรอยเซเลบฯนักกิจกรรมชื่อดังอย่าง Leonardo DiCaprio และ Gisele Bündchen เพราะเป็นการใช้ชื่อเสียงในฐานะนักแสดงเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อม บนเวที re:MARS หนุ่ม Downey Jr. พูดตรงไปตรงมาถึงบทบาท Tony Stark และปัญหาชีวิต ก่อนจะประเมินว่าโครงการ Footprint Coalition จะเปิดตัวในเดือนเมษายน 2020 ซึ่งหลังจากนั้นเราจะได้เห็นหุ่นยนต์และเทคโนโลยีช่วยทำความสะอาดโลกใบนี้
ต่อหน้าผู้ฟังที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI, นักบินอวกาศ และหน่วยงานด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ Downey Jr. เรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกราว เขาไม่ได้เสแสร้งว่ามีภูมิรู้เหมือนผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ แต่ Downey Jr. หวังว่าจะใช้ทักษะที่มีเป็นตัวเชื่อมโยงผู้มีอิทธิพลหลายด้าน เพื่อช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เอาชนะอุปสรรคที่มักพบในระบบหน่วยงานรัฐ
เป้าหมายของโครงการ Footprint Coalition คือการย้อนรอยติดตาม carbon footprint หรือการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยใช้ AI หุ่นยนต์และเทคโนโลยี ทั้งหมดนี้ Downey Jr. ยอมรับว่าแรงผลักดันให้เขามีส่วนร่วมในโครงการ คือประสบการณ์ 11 ปีในฐานะนักแสดงหลักของจักรวาล Marvel Universe ตลอดเวลา Downey Jr. เข้าใจตัวละคร Tony Stark ที่เปลี่ยนจาก “นักหาประโยชน์จากสงครามที่ไร้จิตใจ” มาเป็น “คนที่เต็มใจเสียสละตนเองเพื่อผลประโยชน์ของชุมชน”
Downey Jr. เล่าถึงเหตุการณ์ที่มาของโครงการว่าได้พบกับผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อมในงานเลี้ยงอาหารค่ำงานหนึ่งช่วง 6 เดือนที่แล้ว เขาสนใจมากเมื่อผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการใช้หุ่นยนต์กับเทคโนโลยี อาจจะทำให้มนุษย์สามารถ “ทำความสะอาดโลก” ได้อย่างชัดเจนภายใน 10 ปี
แม้ว่า AI และหุ่นยนต์จะช่วยปัดกวาดมลพิษโลกได้ไม่ทั้งหมด แต่ Downey Jr. ก็พอใจแล้วที่ได้เริ่มต้น Downey Jr. รู้ว่าความเป็นเซเลบฯของตัวเองทำให้เขาสามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกประเภท ทำให้เขาพร้อมจะผลักดันโครงการนี้ และเริ่มรวบรวมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง โดยยินดีที่จะอุทิศชีวิต 11 ปีข้างหน้า เพื่อให้ตัวเขาที่จะมีอายุ 65 ปีในเวลานั้นได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลก
“ผมอุทิศตัวเองเพื่อทำสิ่งที่อาจเล็กน้อยมากในการสร้างประโยชน์ให้โลกตามที่กล่าวไป ไม่ว่าโครงการนี้จะล้มเหลวหรือไม่ แต่นี่ก็ยังคงเป็นความคิดที่ดีที่สุดที่ผมเคยมี”
อินกับบท Iron Man?
สื่อบางสำนักหยอก Downey Jr. ว่า Tony Stark จะต้องภูมิใจแน่ถ้าได้รู้ว่า Downey Jr. อินกับบทบาทเขาจนลุกขึ้นมาประกาศพันธกิจช่วยโลก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Downey Jr. อินกับบทจนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ Downey Jr. เคยประสบปัญหายาเสพติดรุนแรงหลังจากแจ้งเกิดกับภาพยนตร์ Less than zero ภาพยนตร์นี้ Downey Jr. รับบทเป็นลูกเศรษฐีที่ชีวิตตกต่ำจากยาเสพติด ว่ากันว่าความอินกับบทภาพยนตร์มากเกินไปทำให้ Downey Jr. เริ่มกลับมาใช้ยาเสพติดในชีวิตจริง หลังจากถูกพ่อชักชวนให้ลองเสพกัญชาครั้งแรกตอนอายุ 6 ขวบ
หนูน้อย Downey Jr. เกิดในปี 1965 ที่เมืองนิวยอร์ค คุณแม่เป็นนักแสดงขณะที่คุณพ่อเป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์อิสระ ตามประวัติพบว่า Downey Jr. เริ่มอาชีพนักแสดงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และถูกพ่อนักเล่นยาชักชวนให้ลองเสพกัญชาครั้งแรกตอนอายุ 6 ขวบ ภายหลัง Downey Jr. ยอมรับว่าช่วงเวลาเดียวที่เขารู้สึกว่าได้รับความรักจากพ่อ คือช่วงที่เสพกัญชาด้วยกัน
พ่อและแม่แยกทางกันเมื่อ Downey Jr. อายุ 11 ปี แม้ชีวิตในวัยเด็กอาจไม่ใช่ช่วงเวลาที่น่าจดจำ แต่หนูน้อย Downey Jr. มุ่งมั่นกับความฝันในการเป็นนักแสดง กระทั่งช่วงมัธยมปลาย Downey Jr. ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนมาเป็นนักแสดงเต็มตัว และแจ้งเกิดผ่านบทลูกเศรษฐีขี้ยาในภาพยนตร์ Less than zero เมื่ออายุได้ 22 ปี นับแต่นั้น Downey Jr. ก็ประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกจากบทชาลี แชปลิน มีงานแสดงมากขึ้นแต่ปัญหายาเสพติดก็ยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิตไม่ไปไหน
Downey Jr. ถูกจับขณะเมายา เปลือยกายขับรถ และพกพาอาวุธปืนเมื่ออายุได้ 31 ปี เวลานั้นศาลสั่งรอลงอาญาโดย Downey Jr. ต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตลอดระยะเวลา 3 ปี แต่เพราะไม่ไปรายงานตัวตามกำหนด จึงถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากออกจากคุก ชีวิตของ Downey Jr. ตกต่ำสุดขีด มีปัญหาทั้งเรื่องครอบครัวและอาชีพนักแสดง จนกระทั่งอายุ 38 ปี หนุ่มใหญ่ Downey Jr. ตัดสินใจเลิกใช้ยาอย่างจริงจัง
ปี 2008 ภาพยนตร์ Iron Man ภาคแรกทำรายได้ 18,700 ล้านบาท จากทุนสร้าง 4,500 ล้านบาท ปัจจุบัน Downey Jr. กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก คาดว่าการแสดงภาพยนตร์ 1 เรื่อง Downey Jr. ทำเงินได้สูงถึง 2,560 ล้านบาท.
ที่มา: : Fastcompany