ด้วยความต้องการใช้งานบริการเดลิเวอรี่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กลุ่มผู้สู่งหรือไรเดอร์ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีความต้องการมากขึ้น ยิ่งช่วงโควิด-19 คนออกจากบ้านไม่ได้ ยิ่งทำให้การส่งสินค้า ส่งอาหาร หรือแม้แต่ส่งคนก็ยังเป็นเรื่องที่มีการใช้งานอยู่บ้าง
ภาพรวมตลาดฟู้ดดีลิเวอรี (Food Delivery) ในประเทศไทยของปี 2563 มีมูลค่าตลาดรวม อยู่ที่ 68,000 ล้านบาท ปี 2564 อยู่ที่ 74,000 ล้านบาท ส่วนปี 2565 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 82,000 ล้านบาท และปี 2566 ภาพรวมจะทะยานไปถึง 90,000 ล้านบาท และ 99,000 ล้านบาท ในปี 2567 ทำให้คาดว่าจากปีนี้ไปตลาดรวมเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี
“โรบินฮู้ด” แอปเพื่อคนตัวเล็ก แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย เปิดตัว “โรบินฮู้ด ไรเดอร์ แอปพลิเคชัน” แพลตฟอร์มใหม่สำหรับคนส่งอาหาร มุ่งเน้น 3 แกนหลักสำคัญ “เพิ่มรายได้-เพิ่มงาน-เพิ่มโอกาส” ฟีเจอร์ใช้งานง่าย ระบบจ่ายงานทั่วถึง เงินเข้าภายในวัน รายได้รับเต็มไม่หักเปอร์เซ็นต์ อัตราค่าขนส่งใหม่ 2 กิโลเมตรแรก รับเงินเพิ่มขึ้น 7.5% เริ่มต้นที่ 43 บาท
พร้อมกันนี้ยังได้จับมือสองพันธมิตร ETRAN และ H SEM ผู้ให้บริการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย ส่งโมเดล “Robinhood EV Bike” ครั้งแรกของฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทยที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารายวันเพียงวันละ 120 บาท สำหรับส่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด หวังช่วยเพิ่มโอกาสสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนไทยท่ามกลางภาวการณ์ว่างงานที่ดีดตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมปรับพื้นที่ส่วนที่เหลือของสาขาธนาคารไทยพาณิชย์ให้เป็นจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกด้วย ตั้งเป้าภายในปี 2564 มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากพันธมิตรพร้อมให้บริการมากกว่า 1,500 คัน และมีจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่กว่า 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการ “โรบินฮู้ด” แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี กล่าวว่า “ด้วยจุดยืนของโรบินฮู้ดในการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อคนตัวเล็ก เรามุ่งช่วยเหลือร้านอาหารโดยเฉพาะร้านเล็ก ๆ ด้วยการไม่เก็บค่า GP แม้แต่บาทเดียว และมีนโยบายที่จะไม่เก็บตลอดไป ทำให้ปัจจุบันเรามีร้านอาหารที่ให้ความสนใจและเปิดให้บริการบนแพลตฟอร์มโรบินฮู้ดกว่า 97,000 ร้าน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โดยคาดว่าจะถึง 1 แสนร้านค้าภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 นอกจากร้านค้าแล้วอีกหนึ่งคนตัวเล็กที่มีความสำคัญกับธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี คือ “คนส่งอาหาร” หรือ “ไรเดอร์” จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ไม่ใช่เพียงผู้ส่งอาหารแต่เป็นผู้ส่งความสุขผ่านอาหารให้กับลูกค้าโรบินฮู้ดกว่า 1.1 ล้านคน ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา
ด้วยการฝึกอบรมการให้บริการของไรเดอร์อย่างเข้มข้น ทำให้ “โรบินฮู้ด ไรเดอร์” กว่า 15,000 คน ได้รับการตอบรับและเสียงชื่นชมจากทั้งลูกค้าและร้านค้าว่าเป็น “สุภาพบุรุษไรเดอร์” ซึ่งได้กลายเป็นจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างให้กับแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด”
“และเพื่อสานต่อภารกิจในการเป็นแอปฯ เพื่อคนตัวเล็ก ที่นอกจากช่วยร้านอาหารด้วยการไม่เก็บค่า GP แล้ว เรามุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ pain point ให้กับไรเดอร์ ให้พวกเขาได้รับรายได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์แม้แต่บาทเดียว เงินจากการวิ่งงานส่งอาหารเข้าบัญชีภายในวันเดียวกัน มีประกันคุ้มครอง 24 ชั่วโมง รวมถึงระบบการจ่ายงานที่กระจายอย่างทั่วถึง เราหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ไรเดอร์มีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขและเติบโตไปพร้อมกับแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด” นายธนา กล่าวเสริม
นายสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่โรบินฮู้ดได้เปิดให้บริการ เราได้พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับร้านค้าและลูกค้า และเพื่อให้แพลตฟอร์มโรบินฮู้ดสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพครบลูป ecosystem เราจึงได้พัฒนา “โรบินฮู้ด ไรเดอร์ แอปพลิเคชัน” ขึ้นมา ด้วยดีไซน์ใหม่ที่ใช้งานง่าย มีระบบการจ่ายงานที่ทั่วถึง timeout ในการให้บริการลูกค้าลดลง โดยทีมได้ยึด 3 แกนหลักสำคัญในการพัฒนา ได้แก่
- เพิ่มรายได้ ด้วยอัตราค่ารอบใหม่ 2 กิโลเมตรแรกเพิ่มขึ้น 7.5% เริ่มต้นที่ 43 บาท ไม่หักเปอร์เซ็นต์ รองรับฟีเจอร์ “ทิป” จากลูกค้าที่กำลังจะมาในอนาคตอันใกล้
- เพิ่มงาน เตรียมขยายบริการสู่ธุรกิจรับ-ส่งของ (Express Services) และบริการด้านสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต (Mart Service) มุ่งเน้นสนับสนุน ecosystem ที่เป็นประโยชน์กับร้านค้าและลูกค้า ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้นให้ไรเดอร์ในช่วงนอกช่วงเวลาขายดีของการรับส่งอาหาร
- เพิ่มโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ผ่านอาชีพคนส่งอาหารให้ผู้ที่ไม่มีจักรยานยนต์
จุดมุ่งหมายของโครงการ “Robinhood EV Bike” คือ ช่วยสร้างงานให้กับผู้ที่กำลังเผชิญความยากลำบาก ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เราจึงได้ร่วมกับสองพันธมิตร ได้แก่ ETRAN และ H SEM ผู้ให้บริการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย เตรียมนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงกว่า 200 คัน เปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจทำอาชีพไรเดอร์ทั้งที่มีหรือไม่มีรถจักรยานยนต์เป็นของตนเอง สามารถเช่าขับเป็นรายวันกับ ETRAN และ H SEM ค่าเช่าเพียงวันละ 120 บาท พร้อมจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่กว่า 18 จุดทั่วกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของพันธมิตรทั้งสองรายได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นจนมั่นใจว่ามีความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเราตั้งเป้าภายในปี 2564 จะมีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากพันธมิตรพร้อมให้บริการมากกว่า 1,500 คัน และมีจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่กว่า 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มโอกาส เสริมรายได้ ให้ไรเดอร์สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางในปัจจุบัน
นายสรณัญช์ ชูฉัตร ผู้ก่อตั้ง และCEO บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) กล่าวว่า “วิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อชีวิตประจำวันของเราและทำให้อาชีพรับ-ส่งของมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สามารถเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็ก
โดย ETRAN ก็เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพคนตัวเล็กที่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับโรบินฮู้ด ในการนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งรุ่น MYRA ออกแบบและผลิตโดยคนไทย 100% เป็นรถเล็กแต่แรงมาก ทำความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ระยะทางสูงสุด 180 กิโลเมตร/ การชาร์จ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของไรเดอร์โรบินฮู้ดพร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปพร้อมกัน
นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทได้ต่อยอดธุรกิจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ด้วยการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโดยฝีมือคนไทย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไทย ในการออกแบบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ H SEM ทุกรุ่น เราให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน
โดยล่าสุด เราได้ออกแบบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น H SEM MOBILA G เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้เหมาะกับไรเดอร์มากขึ้น พร้อมกับการขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความเร็วสูงสุด 90 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ระยะทางสูงสุด 140 กิโลเมตร/การชาร์จ เรารู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับโรบินฮู้ด
เราเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถช่วยให้คนไทยสามารถมีอาชีพเสริม สร้างโอกาส เพิ่มรายได้ให้กับคนที่สนใจอาชีพไรเดอร์ พร้อมกับรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น