Zalora อีคอมเมิร์ชดาวรุ่งในดวงใจนักช้อปไทยหลายคนคือ 1 ใน 2 ร้านค้าออนไลน์ของเจ้าพ่อรายใหญ่อย่าง Rocket Internet ที่ได้รับการเพิ่มทุนรอบใหม่มูลค่ามากกว่า 112 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 3,500 ล้านบาท) โดย The Iconic เป็นอีก 1 อีคอมเมิร์ซในเครือ Rocket Internet ที่จะได้รับการเริ่มทุนครั้งนี้เช่นกัน
รายงานระบุว่า 2 บริษัทอีคอมเมิร์ซในเครือ Rocket Internet ทั้ง Zalora และ The Iconic กำลังจะได้รับเงินอัดฉีดรอบใหม่มูลค่ากว่า 112 ล้านเหรียญ (เกือบ 3,500 ล้านบาท) จากกลุ่มทุนชื่อ Access Industries ถือเป็นสัญญาณว่าทั้ง 2 เว็บไซต์นี้จะถูกพัฒนาต่อยอดให้มีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมและแข่งขันได้มากขึ้น
Zalora และ The Iconic นั้นเป็นเว็บไซต์ค้าปลีกสินค้าแฟชันทั้งคู่ โดย Zalora ให้บริการครอบคลุมพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ The Iconic ให้บริการในออสเตรเลียเป็นหลัก โดยก่อนหน้านี้ Rocket Internet แสดงท่าทีให้ความสนใจกับทั้ง 2 ธุรกิจนี้มาก เนื่องจากทิศทางการเติบโตของธุรกิจนี้ส่อแววสวยงามชัดเจนในอนาคต
โดยเฉพาะ Zalora ก่อนหน้านี้ Zalora ตกเป็นข่าวว่าได้รับการเพิ่มทุนมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 3,100 ล้านบาท) เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทุนบนกิจการอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอาเซียน ครั้งนั้นเป็นการร่วมลงทุนในนามพันธมิตรระหว่างนักลงทุนจากกลุ่ม Summit Partners, Investment AB Kinnevik, Verlinvest และ Tengelmann Group
สำหรับครั้งนี้ การเพิ่มทุนรอบใหม่ตอกย้ำว่ากลุ่มทุนอินเทอร์เน็ตสัญชาติเยอรมันอย่าง Rocket Internet นั้นโหมลงทุนในเอเชียเต็มที่ตลอดปีนี้ สำหรับ Zalora และ The Iconic ทั้ง 2 บริการถูกคาดหวังว่าจะนำเงินทุนใหม่มาใช้กับการขยายฐานลูกค้ามากกว่า 600 ล้านคนในภูมิภาคนี้
Zalora เปิดให้บริการแล้วที่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไต้หวัน และประเทศไทย โดยตลอดปี 2012 Zalora ประกาศผลขาดทุนยับเยิน 95 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 3,000 ล้านบาท) คาดว่าจะทำกำไรเต็มที่ในปี 2015 นอกจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซสินค้าแฟชัน กลุ่ม Rocket Internet ยังลงทุนด้านอื่นในภูมิภาคอาเซียนด้วย ทั้งบริการโฆษณาจำหน่ายรถมือสอง บริการเทียบราคา บริการเช่าร้านค้าปลีกออนไลน์ บริการจองแท็กซี่ รวมถึงแบรนด์แฟชันของตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เชื่อว่า Rocket Internet จะต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปในระยะยาว
ที่มา: TechinAsia