Site icon Thumbsup

Rovio ผู้สร้าง Angry Birds เปิดแผนกใหม่ลุยธุรกิจโฆษณาเต็มตัว

rovio-most-engaged-full

“Rovio” บริษัทผู้สร้างเกมดังอย่าง Angry Birds ประกาศพร้อมลุยธุรกิจโฆษณาเพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ที่นอกเหนือจากค่าดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและค่าลิขสิทธิ์ในการผลิตสินค้าตัวการ์ตูนของบริษัท โดย Rovio เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวแผนกงานโฆษณาเพื่อประสานงานกับแบรนด์ที่ต้องการสร้างโฆษณาในเกมที่มีความแนบเนียนกว่าการแสดงแบนเนอร์โฆษณาในเกมธรรมดา

ปัจจุบัน Rovio ให้บริการโฆษณาในเกมสำหรับอุปกรณ์พกพาผ่านเครือข่ายโฆษณาอื่นหรือ third party เท่านั้น ขณะเดียวกัน บริษัทก็มีรายได้หลักเพียง 2 แหล่ง ได้แก่?ค่าดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และค่าลิขสิทธิ์ที่ผู้ผลิตสินค้าต้องจ่ายให้ Rovio เมื่อนำการ์ตูนในเกมไปผลิตเป็นลวดลายบนสินค้า Rovio จึงต้องการหาทางเพิ่มแหล่งรายได้ของบริษัทจากธุรกิจโฆษณา ด้วยการนำธุรกิจขายโฆษณาเข้ามาดำเนินการเอง

เรื่องนี้ Michelle Tobin รองประธานอาวุโสของ Rovio กลุ่มธุรกิจโฆษณาแบรนด์สินค้า ภูมิภาคอเมริกาเหนือ ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทมองเห็นโอกาสและวิธีการประชาสัมพันธ์แบรนด์มากมาย แต่ที่ผ่านมา Rovio ยังไม่มีทีมที่จะให้ความสำคัญกับการผลักดันธุรกิจโฆษณาอย่างจริงจัง Rovio จึงตั้งแผนก Brand Advertising Partnership ขึ้นเพื่อลุยตลาดอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย โดยจะโฟกัสที่การให้บริการที่เหนือกว่าโฆษณาแบนเนอร์มาตรฐานทั่วไป

สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากการตั้งทีม Brand Advertising Partnership คือความพยายามพึ่งพาเครือข่ายโฆษณา third-party น้อยลง โดย Rovio จะหันไปสร้างโฆษณาประเภท native ads แทน เช่น การแนบตราสินค้าลงในฉากของเกมดัง Angry Birds รวมถึงการทำโฆษณาแฝงต่างๆในเกมอย่างเหมาะสม

Rovio เปิดเผยว่าได้เริ่มร่วมมือกับแบรนด์บ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ คาดว่าหลายดีลจะสามารถประกาศต่อสื่อมวลชนในช่วงไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้

จุดหนึ่งที่น่าสนใจ คือ Rovio ระบุว่าโฆษณาที่แผนก Brand Advertising Partnership รับผิดชอบนั้นจะครอบคลุมถึงสินค้าทั่วไปของ Rovio มีการผลิตจริงหรือ physical product ด้วย (ที่ผ่านมา นอกจากเกมบน iPhone บริษัทฟินแลนด์อย่าง Rovio ได้แปลงร่าง Angry Birds เวอร์ชันดิจิตอลไปเป็นของเล่น สวนสนุก เครื่องดื่ม และหนังสือ) จุดนี้แบรนด์จะสามารถลงโฆษณาบนสินค้าเหล่านี้ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นร้าน McDonald’s ในเมืองจีน ซึ่งเคยเปลี่ยนสัญลักษณ์ตัว “M” สีทองของ McDonald’s มาเป็นรูปทรงที่มองคล้ายหนังสติ๊กในเกม Angry Birds

ความเคลื่อนไหวนี้เชื่อว่าจะทำให้ Rovio สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นแถวหน้าของวงการโฆษณาโลก เนื่องจากตัวการ์ตูนผลงานของ Rovio นั้นเป็นที่รู้จักของชาวออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีนาคมปีที่แล้ว Angry Birds มีดีกรีเป็นแอปพลิเคชันกลุ่มเสียค่าบริการอันดับ 1 ที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุด ซึ่งสถิติล่าสุดพบว่าเกมนกพิโรธนี้มีจำนวนผู้ใช้ประจำมากกว่า 263 ล้านคนต่อเดือนทั่วโลก

ที่มา: AdAge