จากที่ LINE ประเทศไทยและโรงพยาบาลสมิติเวชเคยขึ้นเวที DAAT Day 2017 เพื่อแบ่งปันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Beacon ร่วมกับ LINE Official Account ว่าสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ในการให้บริการคนไข้ให้สะดวกสบายและรวดเร็วขึ้นได้อย่างไรมาแล้ว วันนี้ คงต้องบอกว่า บริการดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ ณ สมิติเวช สุขุมวิท และสาขาศรีนครินทร์
โดยอาจกล่าวได้ว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้การให้บริการคนไข้ของโรงพยาบาลสมิติเวชถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นหนึ่งด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมี LINE เป็นตัวเชื่อม และทำให้ทางโรงพยาบาลสามารถรักษา Engagement ของโรงพยาบาลกับคนไข้เอาไว้ได้ในทุกระยะ ผ่านรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
- เมื่อรู้สึกไม่สบายอาจและยังไม่สะดวกมาพบแพทย์ (Pre visit) สามารถสอบถามอาการเบื้องต้นได้ก่อนผ่านแชทบอท และสามารถนัดหมายแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา
- เมื่อมาถึงโรงพยาบาล และเปิดบลูทูธไว้ (During Visit) ในกรณีนี้ คนไข้ต้องมีการแอด LINE Official Account ของสมิติเวชเอาไว้แล้ว รวมถึงลงทะเบียนแล้ว
- คนไข้จะได้รับข้อความต้อนรับ และแจ้งว่าต้องไปพบแพทย์ท่านใด ที่แผนกใด
- เมื่อรักษาเสร็จ จะมีข้อความแจ้งว่าต้องไปชำระเงินที่ช่องใด รวมถึงสามารถจ่ายเงินผ่านจะมีช่อง Fast-Checkout สำหรับคนไข้ไว้ให้บริการเป็นพิเศษ และสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ผ่าน LINE Payment ด้วย
- ด้วยเทคโนโลยี LINE Beacon จะมีการแสดงแพกเกจพิเศษ หรือข้อมูลด้านสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลให้กับคนไข้ได้ด้วย
- หลังการรักษาเสร็จสิ้น (Post Visit) คนไข้ยังสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับยาต่าง ๆ ได้
- โดยทั้งหมดนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
เมื่อสอบถามถึงสัดส่วนคนไข้ระหว่างคนไข้ไทยและคนไข้จากต่างชาตินั้น นายแพทย์นิธิวัฒน์ กิจศรีอุไร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เผยว่า สมิติเวชมีคนไข้ชาวไทยประมาณ 60% และเป็นชาวต่างชาติอีกประมาณ 40% ซึ่งในส่วนคนไข้ชาวไทยนั้น มองว่า 90% ของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน หรือคิดเป็นตัวเลขประมาณ 41 ล้านคนมีการใช้งาน LINE เป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี หากเป็นคนไข้ชาวต่างชาติ ทางโรงพยาบาลก็มีช่องทางอื่น ๆ ไว้บริการเช่นกัน เช่น อีเมล โทรศัพท์ ฯลฯ เป็นต้น
ด้านคุณหมอธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล อธิบายเพิ่มเติมว่า เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลนั้นก็เป็นสิ่งที่ทางโรงพยาบาลให้ความสำคัญ โดยบริการจาก LINE เปรียบได้กับผู้สร้างสะพานให้คนไข้เดินเข้ามาหาสมิติเวชได้ง่ายขึ้น เช่น การทำงานของ LINE Beacon ที่เคาเตอร์บริการต่าง ๆ จะเป็นเพียงเครื่องมือแจ้งเตือนว่าคนไข้ LINE ID นี้มาที่เคาเตอร์แล้ว แต่จะไม่ทราบว่าคนไข้รายนี้มีประวัติการรักษาอย่างไร เป็นต้น
นอกจากนั้น คอนเซ็ปต์ของสมิติเวช 4.0 ยังมาพร้อมแอปพลิเคชัน My Health+ ซึ่งคนไข้ของสมิติเวชต้องลงทะเบียนก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ ภายในมีข้อมูลต่าง ๆ เช่น
- My Doctor รายชื่อแพทย์ที่เคยรับการรักษา
- My Result ผลการตรวจเลือด
- My Medicine รายการยาที่ได้รับพร้อมข้อบ่งชี้การใช้ยา
- My Check Up report ผลการตรวจสุขภาพประจำปี พร้อมกราฟเปรียบเทียบ
- My Baby สำหรับคุณแม่ที่ต้องการดูภาพอัลตราซาวน์ลูกน้อยได้
- My Next Appointment นัดหมายครั้งต่อไปพร้อมการแจ้งเตือน
“ในอดีตถ้าเราต้องไปเมืองนอก แล้วแพทย์ในต่างประเทศต้องการดูประวัติการรักษาของเรา อาจทำได้ไม่ง่ายนัก แต่ปัจจุบัน เราสามารถเปิดแอปพลิเคชันนี้แล้วให้ดูได้เลย ว่าเรารับประทานยาอะไรบ้าง ได้มาเมื่อวันที่เท่าไร ผลเอ็กซเรย์เป็นอย่างไร”
โดยในระยะต่อไป คุณหมอธิดากาญจน์เผยว่า อาจมีการคุยกับทาง LINE เพื่อให้มีความสามารถเพิ่มเติม เช่น หากเล่น LINE อยู่แล้วต้องการดูผลเลือดก็กดปุ่มขอดูผลเลือด แล้วระบบก็จะเปิดข้อมูลจากแอปพลิเคชัน My Health+ มานำเสนอได้เลย เป็นต้น
ทั้งนี้ การสร้างประสบการณ์ด้านดิจิทัลของโรงพยาบาลสมิติเวชนั้น จากนี้จะแบ่งออกเป็นสามส่วน นั่นคือ พัฒนาโดยทีมงานภายในของสมิติเวชเอง, จ้างเอาท์ซอร์ส (บริษัทในเครือ BDMS) และการเป็นพาร์ทเนอร์ในลักษณะเดียวกับที่ร่วมมือกับ LINE ประเทศไทยในวันนี้
ปัจจุบัน สมิติเวชมีจำนวนคนไข้ทุกสาขารวมกันมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งจากการเปิดตัวบริการใหม่นี้ คาดว่าจะทำให้มีคนไข้รายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 7,000 คนภายในสิ้นปี และคาดว่าจะมีคนไข้โดยรวมที่ใช้บริการ และแอดเฟรนด์ สมิติเวชเพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 คนเลยทีเดียว