จบลงไปแล้วกับงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ที่ถือว่าเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง The Oscars 2014 หรือที่หลายๆ คนคุ้นกับชื่อ The Academy Awards ที่ในปีนี้ถือว่าเป็นครั้งที่เรียกเรตติ้งจากคนดูได้มากที่สุดในรอบเกือบสิบปี และยังเป็นครั้งแรกที่งาน The Oscars สร้างสถิติใหม่บนโลกออนไลน์ด้วย
หลายๆ คนผ่านตากันไปแล้วกับรูปที่ Ellen DeGeneres พิธีกรรายการชื่อดังซึ่งมารับบทพิธีกรงาน The Oscars ในปีนี้ได้โพสต์ลงบน Twitter และได้รับการตอบรับด้วยการแชร์สูงถึง 3.2 ล้านครั้ง (จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2557) และทำให้บริการอย่าง Twitter ล่มไปเป็นเวลาถึง 20 นาที ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ที่ The Oscars ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อโลกออนไลน์ได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
แต่ในอีกมุมหนึ่ง เราก็ได้เรียนรู้จากปรากฏการณ์เบื้องหลัง Ellen ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือการที่ Samsung แบรนด์ยักษ์ระดับโลกได้ทุ่มเม็ดเงินถึง 20 ล้านเหรียญ หรือราว 660 ล้านบาทในการผลักดันผ่านแคมเปญที่หมายมั่นว่าจะผลักดันให้แบรนด์ Samsung เอาชนะแบรนด์ Apple ในตลาดอเมริกาเหนือให้ได้
The Wall Street Journal ได้รายงานว่า ในเม็ดเงิน 20 ล้านเหรียญนี้ Samsung ได้เริ่มตั้งแต่การปล่อยโฆษณาใหม่ภายใต้คอนเซปต์ “You Need To See This” ที่ปล่อยให้ผู้ชมได้เห็นครั้งแรกในคืนวันอาทิตย์ คืนเดียวกับงาน The Oscars โดยโฆษณาตัวนี้ขายจุดเด่นของโทรศัพท์ Samsung ที่มีจอใหญ่กว่าของ Apple และมีคุณภาพของวิดีโอที่ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นยังมีการผนวกสินค้าในกลุ่ม smart watch และปากกาสำหรับอุปกรณ์มือถือในวิดีโอเดียวกันด้วย
http://youtu.be/nKuVnYntDvA
ตัวโฆษณาตั้งใจจะสื่อถึงการบอกต่อแบบปากต่อปากซึ่งเป็นกลยุทธ์ของ Samsung ในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนั้นยังมีการให้โทรศัพท์กับผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดเพื่อให้เกิดกระแสอีกด้วย แต่นอกจากนั้น Samsung ยังได้ใช้งบก้อนเดียวกันนี้ในการผลักดันให้โทรศัพท์รุ่นดังได้เข้าไปอยู่ในงานประกาศรางวัลเพื่อให้ตัวเครื่องอยู่ในมือดารา-ศิลปิน และสร้างกระแสผ่านการถ่ายรูปแบบ selfie ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ Bradley Cooper และ Ellen DeGeneres ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ผ่าน Samsung Galaxy Note 3 นั่นเอง ซึ่งแม้ว่าในวันรุ่งขึ้น Ellen จะกลับไปใช้ iPhone ที่ตนเองใช้เป็นประจำ ตัวคอนเทนต์ก็ถูกพูดถึงจนสร้างสถิติใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดี ในมุมตรงกันข้าม ท่ามกลางกระแส selfie และเม็ดเงินมหาศาลจาก Samsung กลับมีร้านพิซซ่าเล็กๆ ร้านหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาสร้างกระแสได้ไม่แพ้กัน นั่นก็คือร้าน Big Mama’s & Papa’s Pizza ที่มีหลายสาขากระจายอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ โดย Ellen เองซึ่งเป็นลูกค้าประจำของสาขาหนึ่งที่อยู่ใกล้สตูดิโอที่เธอถ่ายรายการเป็นประจำได้สั่งมาถึง 10 ถาดเพื่อแจกให้กับเหล่าดาราชั้นนำที่มาร่วมงานจนเป็นภาพให้เห็นไปทั่วโลก โดยที่ร้านดังกล่าวไม่ได้จ่ายเงินเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นแม้แต่บาทเดียว แต่ด้วยการเข้าถึงคนกว่า 43 ล้านคนนั้น สื่ออย่าง TMZ ได้ประเมินมูลค่าของสื่อไว้ได้ถึง 10.8 ล้านเหรียญ หรือราว 356 ล้านบาท และทำให้ร้านดังกล่าวมียอดการเข้าชมเว็บไซต์ของตัวเองเพิ่มถึง 60,000 คนภายใน 1 ชั่วโมง และยอดขายเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 500% ด้วย
แถมวันรุ่งขึ้น Ellen ยังใจดีด้วยการเชิญชายที่เดินแจกพิซซ่าในงานไปออกรายการของเธอและมอบทิปให้อีกทั้งสิ้น 1,600 เหรียญ หรือเกือบ 53,000 บาท
ก็เรียกได้ว่างาน The Oscars ครั้งนี้มีกระแสอะไรใหม่ๆ ให้ได้เห็นกัน นอกจากนั้น แม้เผินๆ แล้วจะดูเหมือนว่าร้านพิซซ่าได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า Samsung เป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องบอกว่างานนี้ Samsung ก็ยังคงเป็นผู้ชนะตัวจริงในตลาดโลก เพราะร้านพิซซ่าดังกล่าวมีอยู่แค่ 20 สาขาในแคลิฟอร์เนีย ในขณะที่แบรนด์ Samsung สามารถเอาผลจากงานครั้งนี้ไปขยายผลที่เข้าถึงผู้บริโภคต่อได้มากกว่าอย่างขาดลอย ลองดูจากคลิปจากรายการ The Ellen Show ในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากงาน The Oscars นี้ดูครับ
งานนี้ก็ต้องปรบมือให้ Samsung ที่ครองงาน The Oscars ได้อย่างสวยงามครับ
ที่มา: Business Insider , Business Insider