เปิดตัวกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Samsung Galaxy S6 smartphone รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดจาก Samsung โดยคราวนี้เปิดตัวที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปนในงาน Mobile World Congress คราวนี้เปิดออกมา 2 แบบพร้อมกันคือ Samsung Galaxy S6 edge, Galaxy S6 ต่างกันตรงขอบจอที่โค้งมนดูเก๋ไก๋แปลกตาไปอีกแบบ เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย
JK Shin ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้บริหารในสายงาน IT & Mobile Communications ของ Samsung ได้ออกมาประกาศว่า Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการออกแบบและประสิทธิภาพ โดยสร้างให้ Galaxy S6 มีความผสมผสานกันของวัสดุขั้นพรีเมี่ยมที่สวยงาม และเทคโนโลยีของ Samsung ที่จะมาสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด จากนั้น JK Shin ก็ส่งไม้ต่อให้กับผู้บริหารอีกหลายคนขึ้นมาเล่าถึงที่มาที่ไป โดยเฉพาะการออกแบบที่ทาง Samsung ใช้คำว่า “Beauty Meets Purpose” ซึ่งหมายถึงการออกแบบที่บรรจบกันกับจุดประสงค์
ขณะที่เปิดตัวเว็บเมืองนอกอย่าง The Verge ก็ได้ภาพขึ้นมาก่อน เราจึงเอาหน้าตามาให้ดูกันจะจะก่อนนะครับ
ในการบรรยาย Samsung เผยว่า Galaxy S6 จะจับถนัดมือ มาพร้อมกับหน้าจอที่โค้งมนทั้ง 2 ด้าน มีกระจกครอบทั่วตัว โดยกระจกที่ครอบนั้นเป็นแบบ Corning® Gorilla Glass® 4 (ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน หากตก ก็มีโอกาสแตกน้อยกว่าเครื่องรุ่นทั่วๆ ไป) เปิดตัวมา 6 สีด้วยกัน มีสีขาว White Pearl, สีดำ Black Sapphire, สีทอง Gold Platinum, สีน้ำเงิน Blue Topaz และสีเขียว Green Emerald
กล้องเด็ดกว่าเดิม
แน่นอนว่าเปิดตัวมาใหม่ก็ต้องมีกล้องที่แจ่มขึ้น Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge มีกล้องที่ดีกว่าเดิมมาก อย่างกล้องหน้าก็ซัดกันมาแล้ว 5MP และกล้องหลัง 16MP โดยมี Focus 1.9 ซึ่งถือว่าจับภาพคุณภาพสูงได้แม้ในที่แสงสว่างน้อย นอกจากนี้ยังมีระบบ Auto Real-time High Dynamic Range (HDR) และ Smart Optical Image Stabilization (OIS) และ IR Detect White Balance มาให้ ทำให้การถ่ายภาพง่ายขึ้น ไม่สั่นไหว และที่หลายคนฮือฮากันก็คือคราวนี้ Samsung จัดหนักเปรียบเทียบภาพให้เห็นกันจะจะเลยว่าถ้าถ่ายภาพกับวิดีโอแล้วจะดีกว่า iPhone 6 แค่ไหน
ชาร์จไร้สายได้เร็ว
Samsung เผยว่าการชาร์จไร้สายนั้นมี 2 เทคโนโลยีหลักๆ คือ WPC และ PMA ทาง Samsung ได้ดึงเอา 2 เทคโนโลยีนี้มารวมกันอยู่ใน S6 ซึ่งทำให้ผู้ใช้ชาร์จได้ง่ายขึ้น เพราะมันจะใช้กับที่ชาร์จไร้สายอันไหนก็ได้ที่รองรับ 2 เทคโนโลยีนี้ ทั้งยังชาร์จได้เร็วกว่า S5 1.5 เท่า และชาร์จให้ S6 ใช้งานได้ 4 ชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 10 นาที
เครื่องแรงสุดๆ
เครื่องมาบางเฉียบ 6.8 มิลลิเมตร และ 7 mm สำหรับ S6 edge น้ำหนักเพียง 138 กรัม ส่วน S6 edge เพียง 132 กรัม ที่มาพร้อมกับ 14 นาโนเมตร mobile processor แบบ 64-bit ที่ประหยัดพลังงานได้อีก 20% ส่วน RAM นั้นเป็น DDR4 ประสิทธิภาพดีขึ้น 80% และสุดท้ายคือ เปลี่ยนมาใช้ Universal Flash Storage 2.0 ประสิทธิภาพของการอ่าน-เขียนข้อมูลดีขึ้นอีกด้วย
นอกจากฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ที่จัดเต็มมาแล้ว Samsung ยังเปิด Samsung Pay บริการจ่ายเงินบนมือถือที่จะทำงานกับธนาคารต่างๆ ในสหรัฐฯ และเกาหลีได้เป็นอย่างดี (บ้านเราอย่างไร อันนี้ต้องคอยดูกัน) และยังมีการอัปเกรดระบบรักษาความปลอดภัยที่ชื่อว่า Samsung KNOX ให้ดียิ่งขึ้นอีก
ในภาพรวมแล้ว Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge มาพร้อม กับวัสดุสุดพรีเมียม ดีไซน์สวยบางเฉียบ กล้องจับภาพไว ผนวกกับระบบปฎิบัติการ Android รุ่นล่าสุดลบคำสบประมาทที่เคยบอกว่ากระตุกสมัยก่อนไปหมดจด คราวนี้ดีไซน์เครื่องออกมาเป็น Unibody เปลี่ยนถ่านไม่ได้ แต่ก็มีความจุหลายขนาดให้เลือก นั่นคือ 32/64/128 GB และมี 5 สีให้เลือก White Pearl, Black Sapphire, Gold Platinum, Blue Topaz (Galaxy S6) และ Green Emerald (Galaxy S6 edge เท่านั้น)
ทาง thumbsup ได้สอบถามจากทางผู้บริหารของ Samsung ประเทศไทยแล้ว จึงทราบว่าสำหรับบ้านเรา Samsung จะเริ่มนำเข้า Galaxy S6 มาก่อน 3 สีคือ White Pearl, Black Sapphire, Gold Platinum และอาจจะนำสี Green Emerald ตามเข้ามาอีกครั้ง แต่ราคายังไม่เปิดเผย
ดีไซน์ก็สวย ประสิทธิภาพก็ดี โจทย์หลักของ Samsung ประเทศไทยคงเหลืออยู่ที่ว่าจะวางกลยุทธ์ด้านราคา และช่องทางการวางจำหน่ายได้ดีแค่ไหนแล้วล่ะ แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับ Galaxy S6?