ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มร้อนแรงกันตั้งแต่ต้นปี เมื่อ Samsung Elecrtronics ออกมาประกาศกลยุทธ์ในปี 2018 ที่เน้นเจาะตลาดระดับบนมากขึ้น ผ่านการทำ Targeting โดยใช้ BigData บนแพลตฟอร์ม Social Media เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกที่ถูกเวลา และเตรียมปรับโฉมร้านค้าของพาร์ทเนอร์ให้สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ของสินค้า IoT และสามารถให้ความรู้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
โดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Samsung ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงในปีนี้หลัก ๆ ได้แก่ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะตลาดเครื่องปรับอากาศที่มีมูลค่าสูงมากประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่ง Samsung บอกว่าจะเน้นไปที่สินค้าระดับพรีเมียม เช่น เครื่องปรับอากาศที่มาพร้อมเทคโนโลยี Inverter โดยทั้ง 17 รุ่นที่จะเปิดตัวในปีนี้เป็นระบบ Inverter ทั้งหมด
ขณะที่การมาถึงของเครื่องใช้ไฟฟ้า IoT ที่ Samsung นำมาจัดแสดงในการแถลงกลยุทธ์ครั้งนี้มีตั้งแต่เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น สมาร์ททีวี ที่สามารถควบคุมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Connect บนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ และในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการเปิดตัวเทคโนโลยี Family Hub สำหรับเป็นผู้ช่วยครอบครัวในการเชื่อมต่อตู้เย็นเข้ากับร้านซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อสั่งสินค้าได้โดยตรง รวมถึงช่วยวางแผนมื้ออาหาร หรือแนะนำเมนูอาหารจากสิ่งที่มีในตู้เย็นได้ด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อถามถึงทิศทางของการเปิดตัวสินค้า IoT อย่างเต็มรูปแบบในไทยเหมือนที่บริษัทแม่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ไว้ในงาน CES 2018 นั้นพบว่า ยังมีอุปสรรคในหลาย ๆ ด้าน เช่น เรื่องของการให้ความรู้กับลูกค้าและตลาด รวมถึงเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานของผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ต้องให้มั่นใจว่าใช้งานร่วมกันได้ และที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องของระบบหลังบ้านของ Samsung เอง ในกรณีที่ว่าเกิดปัญหากับเครื่องใช้ไฟฟ้า IoT ทีมงานของ Samsung จะต้องสามารถเข้าไปแก้ไขหรือช่วยเหลือได้ด้วย
ผลก็คือในปีนี้ จะมีการเปิดตัวเครื่องซักผ้า IoT เพียงสองรุ่นอย่างรุ่น QuickDrive จากสินค้าทั้งหมดที่ตั้งเป้าจะเปิดตัวในปีนี้ 36 รุ่น ส่วนผู้ช่วย Bixby หรือการใช้งาน IoT แบบ Full-Function (สั่งการได้ด้วยเสียง) นั้นก็คงต้องรอกันต่อไป เพราะจะยังไม่ได้เห็นกันในปีนี้แน่นอน
คุณเสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้อำนวยการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เราเน้นการทำตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น วางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าระดับบน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานได้ ซึ่ง Samsung มีแผนที่จะเน้นทำตลาดผ่านความร่วมมือกับคู่ค้ารีเทลทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ตลอดปี โดยตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของ Samsung เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 3 เท่าตัว”
“ปัจจุบันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของไทยมีมูลค่า 52,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4 ภายในปีนี้ สิ่งที่ Samsung เริ่มทำจึงเป็นการเพิ่มงบการตลาดขึ้นอีก 10% พร้อมจัด 2 แคมเปญส่งเสริมการขาย ได้แก่ แคมเปญ Summer นำเสนอโปรโมชั่นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต้อนรับช่วงหน้าร้อน และแคมเปญ 8 Wonders ที่เน้นทำตลาดผ่านโปรโมชั่นช่วงปลายปี” คุณเสาวณีย์ กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ Samsung ยังพบว่า ตลาดระดับบนของเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในปี 2018 โดยเฉพาะเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายและแบบหุ่นยนต์ รวมถึงเตาไมโครเวฟแบบมัลติฟังก์ชั่น อบ อุ่น ย่าง ครบในตัว จึงจะมุ่งทำตลาดในเซกต์เมนต์นี้มากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ด้านแบรนด์และนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยให้ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลภายในบ้านง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง