อาจกล่าวได้ว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการที่แบรนด์พยายามจะเจาะเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยเราได้เห็นหลาย ๆ แบรนด์เน้นจุดเด่นของโปรดักซ์ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้ายุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปกันมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่แปลกหากเราจะมี LifeStyle Banking ไปจนถึง LifeStyle TV ให้ใช้งานกันอย่างที่ Samsung เปิดตัว The Frame กันในวันนี้
โดย Samsung มองว่าผู้บริโภคทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปในแง่ของพฤติกรรมการรับชมทีวี เนื่องจากมี Device ชนิดอื่นเข้ามาแย่งชิงความสนใจ เช่น สมาร์ทโฟน ทำให้ระยะเวลาที่ผู้บริโภคจะรับชมทีวีนั้นลดลงเหลือเฉลี่ยเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนอีก 20 ชั่วโมง ทีวีก็จะถูกตั้งอยู่กลางบ้านพร้อมจอสีดำทะมึน
ในจุดนี้ Samsung เลยมองว่า ทีวีที่เมื่อปิดไปแล้วยังสามารถใช้ประโยชน์อื่นได้ด้วยน่าจะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดีกว่า จึงนำไปสู่การพัฒนาทีวีที่ไม่ได้เป็นแค่ทีวี หากยังเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะภายในบ้านภายใต้คอนเซ็ปต์ “Samsung The Frame : Art when it’s off, TV when it’s on” ขึ้นมาด้วย โดยจุดเด่นหลัก ๆ ของ The Frame มีดังต่อไปนี้
- ได้รับรางวัล Best of Innovation Award จากเวที CES 2017
- ออกแบบโดย “อีฟ เบฮาร์” ศิลปินระดับโลกชาวสวิสเซอร์แลนด์
- มาพร้อมอุปกรณ์ติดทีวีกับผนังแบบไร้ช่องว่าง และขาตั้งแบบต่าง ๆ ให้เลือก
- มาพร้อม One Remote Control อันเดียวที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ The Frame ได้ในตัว
- ภายในระบบของตัวเครื่องมีภาพงานศิลปะจากศิลปินระดับโลก 37 คนใน 10 สาขาให้เลือกแสดงผลในระหว่างที่ปิดทีวีได้กว่า 100 ภาพ
- สามารถนำภาพจากแหล่งอื่นเข้ามาแสดงผลได้ หรือเข้าไปเลือกซื้องานศิลปะเพิ่มเติมได้ที่ Art Store
- มีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและแสงสว่างภายในห้อง โดยจะปิดจอได้อัตโนมัติถ้าพบว่าในห้องไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ หรือถ้าแสงในห้องลดลง หน้าจอก็จะ Dim ไฟลงให้อัตโนมัติเช่นกัน
- สามารถเปลี่ยนกรอบได้ตามต้องการ
- มี Invisible Connections เป็นสายไฟเบอร์ออปติกที่ช่วยให้การติด The Frame เข้ากับผนังทำได้เรียบร้อยมากขึ้น ไม่ดูรกรุงรัง
จากการเปิดเผยของคุณวรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด และคุณสุวิณ โกษีอำนวย ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจภาพและเสียงของไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เผยว่า การทำตลาด The Frame แบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนของโลกออนไลน์ที่เน้นใช้ Influencer ของเหล่าคนรักในงานศิลปะและเทคโนโลยีในการบอกต่อ ส่วนโลกออฟไลนนั้นจะจัดพื้นที่พิเศษสำหรับแสดงผลิตภัณฑ์ในร้านค้า 40 แห่งพร้อมกิจกรรมพิเศษเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วม
แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ ทีมผู้บริหารจาก Samsung ยังได้ให้การคาดการณ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์ของวงการทีวีในอนาคตด้วยว่า
- ในยุคหน้าจะมีทีวีที่ออกมาเพื่อรองรับการใช้งานในห้องต่าง ๆ ของบ้านมากขึ้น เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ ฯลฯ
- ทีวีจะมีการ “คุยกัน” กับอุปกรณ์อื่นมากขึ้น ซึ่งในจุดนี้ คุณสุวิณ บอกกับเราว่า ขอให้รอติดตามตอนต่อไปปีหน้า คาดว่าภาพนี้จะชัดเจนมากขึ้น
งานนี้ Samsung ฝากมาบอกด้วยว่า ทีวีจอแบนขนาดเล็กสำหรับเจาะตลาดล่างอาจเริ่มอิ่มตัวแล้ว แต่สำหรับทีวีที่เจาะผู้บริโภคระดับกลางถึงระดับบน (จอขนาด 49 นิ้วขึ้นไป) ยังมีช่องว่างในการเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในปีหน้าที่จะมีมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่ง Samsung เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มตัวเลขยอดขายให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี