Site icon Thumbsup

SCB และ Sea (ประเทศไทย) จับมือสร้างการเติบโตบน Digital Lifestyle Ecosystem อย่างเต็มรูปแบบ

การทำธุรกิจยุคนี้ยืนด้วยตัวคนเดียวไม่ได้อีกต่อไป การร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ ที่มีความแข็งแกร่งในจุดอื่น มาพัฒนาให้บริษัทตนเองมีความพร้อมมากยิ่งขึ้น กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งหนึ่งในความร่วมมือ (Partnership) ล่าสุดที่น่าสนใจก็คงหนีไม่พ้น ความร่วมมือกันระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และบริษัท Sea (ประเทศไทย) ที่เดินหน้าสร้างความร่วมมือในหลายมิติเพื่อเดินหน้าจับมือสร้างการเติบโตบน Digital Lifestyle Ecosystem อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมรับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลร่วมกัน

โดยเราได้รับเกียรติจาก คุณปิติพร พนาภัทร์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจ ของ SCB และคุณมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ CEO ของ Sea (ประเทศไทย) มาเผยถึงรายละเอียดของความร่วมมือในครั้งนี้

SCB มีจุดแข็งด้านการเงินและธนาคาร

คุณปิติพร เริ่มเล่าถึงการแถลงในงาน 2020 SCB VISION ที่มีคุณอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร SCB กล่าวถึงวิสัยทัศน์ (Vision) ที่มองแค่ “Bank as a Platform” หรือ “การสร้างแพลตฟอร์มที่ให้บริการด้านธนาคาร” เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะนำพาองค์กรฝ่ากระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจยุคปัจจุบันได้

ซึ่งหลายธุรกิจใหม่ ๆ ก็สร้างบริการได้ใกล้เคียงกับธนาคาร และใกล้ชิดลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้ SCB ต้องพยายามปรับทั้งผลิตภัณฑ์และรูปแบบให้บริการแบบ 360 องศา เช่น การสร้างประสบการณ์ด้านการชำระเงินแบบไร้รอยต่อ (Seamless Payment Experience), การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion), การพัฒนาระบบชำระเงินให้มีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น, การขยายความร่วมมือกับค้าปลีกหลาย ๆ ราย และสนับสนุนธุรกิจ Small SME (SSME) พร้อมประกาศเจตนารมณ์ของธนาคารที่ต้องการเป็น The Most Admired Bank หรือการเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด”

แต่สิ่งหนึ่งที่ SCB ยังต้องทำอย่างต่อเนื่อง คือ การเดินหน้าแสวงหาพันธมิตรใหม่ๆ (Partnerships) ในหลายภาคส่วนธุรกิจ เพื่อนำความเชี่ยวชาญและแข็งแกร่งของพันธมิตรมาช่วยในการพัฒนาขีดความสามารถใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตในรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งแน่นอนว่าการร่วมงานและสร้าง Partnership กับ Sea (ประเทศไทย) ในครั้งนี้ก็เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้ฝั่ง SCB อีกทางหนึ่งด้วย

 

Sea (ประเทศไทย) แกร่งในด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม

ส่วนคุณมณีรัตน์ ระบุว่า Sea นั้นเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีบริการที่น่าสนใจให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทั้งด้านดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนท์ (การีนา) อีคอมเมิร์ซ (ช้อปปี้) และบริการด้านการเงินแบบดิจิทัล (แอร์เพย์) โดยเปิดให้บริการในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2557

โดยภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี ผลิตภัณฑ์และบริการจาก Sea ได้เข้ามามีบทบาทกับผู้ใช้งานชาวไทยในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นจากการีนา ที่ได้ส่งเกมชั้นนำอันดับหนึ่งในประเทศอย่าง RoV และ Free Fire แพลตฟอร์มสุดฮอตอย่าง Shopee ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์ม e-Commerce ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยล่าสุดยังคว้าแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับเหล่านักช้อปบน Shopee

โดยทาง Sea มุ่งผลักดันให้แพลตฟอร์มเติบโต ผ่าน 3 เสาหลักที่เป็น 3Es นั่นคือ Enlarge, Enable และ Empower ซึ่งทำให้ความ mature ของตลาดดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น โดย 3Es ได้แก่

  1. Enlarge คือ การพยายามขยายลูกค้าให้ฐานมากขึ้น นอกเหนือจากในเมือง ตอบรับกลุ่มคนที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้คนใช้บริการแพลตฟอร์มมากขึ้น
  2. Enable คือ การทำให้มีผู้เข้ามาใช้แพลตฟอร์มมากขึ้น ผ่านการสร้างประสบการณ์ (Experience), มีการช่วยเหลือ-สนับสนุน (Help & Support) ผู้ใช้ได้อย่างทันท่วงที, และการเอาใจใส่และสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้านั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เพราะแม้ในธุรกิจดิจิทัล เทคโนโลยีก็เป็นเพียงหนึ่งใน “เครื่องมือ” ที่ช่วยตอบโจทย์เท่านั้น แต่ปัจจัยที่สำคัญกว่า คือ ความเข้าใจตลาดและความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน
  3. Empower คือ การสร้าง Ecosystem ให้เข้มแข็ง ไม่ใช่แค่การทำให้ Sea เข้มแข็งเพียงอย่างเดียว โดยจะมีการทำ Partnership กับในหลายภาคส่วน เช่น ภาครัฐ ภาคการศึกษา เป็นต้น

 

ร่วมกันสร้าง Digital Lifestyle Ecosystem

SCB ให้เหตุผลในการจับมือกับ Sea (ประเทศไทย) นั้น ทาง SCB ระบุว่ามี 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ

  1. ในฐานะที่ SCB มีเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็น Tech Bank ดังนั้น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ SCB ให้ความสนใจ และมองหาพันธมิตรที่จะร่วมมือทางธุรกิจด้วย
  2. Sea เป็นสตาร์ทอัพระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ที่สามารถเปิดระดมทุน IPO ที่ตลาดหุ้นอเมริกาได้แล้ว มี Ecosystem ที่เพียบพร้อมทั้ง Digital Entertainment , E-Commerce และ Digital Financial Services ที่สามารถพัฒนาระบบเพื่อให้ส่งเสริมกันหรือใช้งานร่วมกันได้ ทำให้ลูกค้าทั้งสองฝั่งเกิดความสะดวกและไร้รอยต่อในการใช้งาน

ซึ่งทาง Sea (ประเทศไทย) ระบุว่า SCB เป็นธนาคารที่อยู่กับไทยมานาน มีฐานลูกค้ากว้าง มี Payment Solution และ Credit Solution ที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถนำมาพัฒนาร่วมบริการของ Sea ที่ตอบสนองลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย

โดยการจับมือระหว่าง SCB และ Sea ในครั้งนี้จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือที่ SCB พยายามสร้าง Partnership กับหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาคการขนส่ง, สาธารณสุข, โรงแรม, ร้านอาหาร, มหาวิทยาลัย, ผู้ค้าปลีก, ผู้ค่าส่ง และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการลูกค้ามากขึ้น รวมถึงสร้างการเรียนรู้และสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรในหลายมิติ นอกจากนี้ Sea นั้นมีกลุ่มฐานลูกค้าเป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมากนั่นเอง

ซึ่ง SCB และ Sea จะเริ่มร่วมมือกันผ่านการเชื่อมระบบชำระค่าบริการ (Bill Payment) โดยจะเป็นการเพิ่มช่องทางชำระค่าบริการของ SCB ได้ผ่านทาง AirPay และเติมเงินเข้า AirPay ได้จากแอป SCB EASY ฯลฯ

คุณปิติพร พนาภัทร์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจผู้จัดการใหญ่ของ SCB กล่าวว่า “สำหรับของไทยพาณิชย์เราเป็น Financial Services ในส่วนธุรกิจแบงก์ยังโฟกัสในระบบการชำระเงิน (Payment) และ การสร้างประสบการณ์ด้านการชำระเงินแบบไร้รอยต่อ (Seamless Payment Experience) อันนี้เป็นสิ่งที่เราสนใจอยู่แล้ว ถ้าเราจะทำธุระกิจที่เกี่ยวกับเกมหรือ E-Commerce ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ถนัด เพราะฉะนั้นเราต้องไปกับ Partner ที่มีความรู้ด้านนั้นๆ เราคิดว่ามันเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน”

ส่วนคุณมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ CEO ของ Sea (ประเทศไทย) กล่าวทิ้งท้ายว่า “ความตั้งใจของเราก็คือ การจับมือร่วมกันพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า เพราะว่าสุดท้ายแล้ว เราคิดว่าทั้ง SCB และ Sea เอง เรามองเหมือนกันว่าอะไรคือสิ่งที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราจากการจับมือร่วมกันในครั้งนี้ ความร่วมมือเรามองเป็น Long-term อยู่แล้ว”

บทความนี้เป็น Advertorial