ด้วยประสบการณ์ช้อปปิ้งในยุคนี้ที่ต่างไปจากเดิม ล่าสุดที่ SCB มีการร่วมมือกับเดอะมอลล์ทำ QR Payment ในการใช้จ่ายและช้อปปิ้งสินค้าที่กูร์เม่ต์ ก็มีความน่าสนใจแล้ว ครั้งนี้จะตอบโจทย์การซื้อสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ผ่านบัตรเครดิตที่คาดว่าปีนี้จะมีผู้สนใจเปิดบัตรใหม่กว่า 5 แสนใบในปีนี้
การร่วมมือของธนาคารไทยพาณิชย์และเดอะมอลล์ในครั้งนี้ จะมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “eMperience” ที่มาพร้อมแนวคิด“The First Evolution of Experiential Shopping” ตอบโจทย์ความต้องการนักช้อป 4 แกนหลัก คือ
- บัตร Co-Branded “SCB M” ครอบคลุมทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรพรีเพด และกิ๊ฟท์การ์ด มอบสิทธิประโยชน์ทุกไลฟ์สไตล์การช้อป
- Payment Services ประสบการณ์การชำระเงินจากบัตร SCB M ในรูปแบบ Virtual Credit Card โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY บนมือถือ
- Banking Agent Services บริการทางการเงินแบบครบวงจรถึงในห้างสำหรับขาช้อป เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถชำระบิลค่าสาธารณูปโภคได้ที่แคชเชียร์ในห้าง
- เทคโนโลยีที่ช่วยให้การช้อปปิ้งสนุกมากยิ่งขึ้น อาทิ I-RESERVED PARKING บริการจองที่จอดรถล่วงหน้า เป็นต้น
ด้วยความพิเศษนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงตั้งเป้ายอดสมัครบัตรเครดิตทั้ง 3 ประเภทรวมกัน 500,000 ใบ แบ่งเป็น SCB M Visa สำหรับผู้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป น่าจะมีผู้สมัครใหม่ 3 แสนใบ ส่วน SCB M LUXE VISA SIGNATURE CREDIT CARD สำหรับผู้ที่มีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และบัตรเครดิต SCB M LEGEND VISA INFINITE CREDIT CARD รวมกันน่าจะมีผู้สมัครใหม่ 2 แสนใบและคาดการณ์ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า 20,000 ล้านบาทในปีแรก
แนวทางความร่วมมือ
ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในโอกาสที่ธนาคารไทยพาณิชย์และเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้สานต่อความร่วมมือครั้งสำคัญกันอีกครั้ง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลของผู้บริโภค และนำไปสู่ปรากฏการณ์ใหม่ของ Retail 4.0
การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการผสานจุดแข็งของสององค์กรชั้นนำเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งสำคัญในการพลิกประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ผ่านการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาเชื่อมต่อโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้า
ธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างและเติมเต็ม ecosystem ด้านดิจิทัลเทคโนโลยีให้ครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม โดยธุรกิจค้าปลีกเป็น 1 ใน 7 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ธนาคารต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศสังคมไร้เงินสด
โดยความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยพาณิชย์ที่จะไม่เป็นเพียงแค่ธนาคารอีกต่อไป แต่เป็นองค์กรที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ เสริมขีดความสามารถ และเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างการผูกพันกับลูกค้า (Customer Engagement)
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การนำเสนอนวัตกรรมการให้บริการกับลูกค้าในรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด The First Evolution of Experiential Shopping “SCBM Call it eMperience” โลกใหม่ ประสบการณ์ใหม่ เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ในการสร้าง Cashless Future Retail ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีกร่วมกับสถาบันการเงิน ด้วยการ Co-Created ผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดล้ำทางการเงิน เพื่อขานรับนโยบาย National e-Payment ของทางรัฐบาลและกระทรวงการคลังในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลไร้เงินสดดังเช่นหลากหลายประเทศชั้นนำทั่วโลก
การให้บริการดังกล่าวจะครอบคลุมลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาใช้บริการทั้งในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ และสยามพารากอน ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์หลักของเดอะมอลล์ กรุ๊ป คือการปรับตัวเองจากสถานที่แบบซื้อมา ขายไป (Materialistic Place of Consumption) ให้เป็นสถานที่สร้างความสัมพันธ์พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำ ให้ความสุขกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง (The Experiential Place of Relationship and Entertainment)
การช้อปปิ้งทุกวันนี้จะไม่ใช่เพียงการจ่ายเงินและได้สินค้ากลับไป แต่เป็นโอกาสที่เราจะได้เข้าใจความต้องการของลูกค้าและมอบประสบการณ์ที่พิเศษสุดให้กับลูกค้าต่อไป (Deeper Customer Engagement) โดยข้อมูล Big Data ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากภายในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าฯ (Customer Journey) ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ปัจจุบันเดอะมอลล์ กรุ๊ป มีลูกค้าหมุนเวียนทุกสาขารวม 400 ล้านคนต่อปี โดย 70% ของยอดขายในห้างฯ มาจากสมาชิก M card ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 4 ล้านคน และลูกค้ากว่า 55 % ชำระผ่าน Electronic Payment อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต QR เป็นต้น ซึ่งโครงการความร่วมมือ “SCB M” ในครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองทุก Journey ของการช้อปปิ้ง
สิทธิพิเศษที่จะได้รับ
Payment Services ประสบการณ์ช้อปปิ้งจะเปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยีทางการเงินสุดล้ำ ตอบทุกความต้องการของนักช้อปในยุคดิจิทัล 4.0
- ช้อปปิ้งด้วยบัตรเครดิต SCB M บนมือถือ สแกน QR และชำระผ่านบัตรเครดิต SCB M VISA ในรูปแบบของ Virtual Card ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY
- E-commerce Platform and Payment Gateway แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางการรับชำระผ่านอิเล็กทรอนิกส์
- SMART EDC เครื่องรับบัตรอัจฉริยะที่ให้แคชเชียร์ให้บริการได้อย่างรวดเร็ว สามารถรองรับการใช้งานต่างๆ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต AliPay WeChatPay ตรวจสอบและแลกคะแนน M Point และเติมเงินบัตรพรีเพด เป็นต้น
Banking Agent Services บริการทางเงินแบบครบวงจรสำหรับขาช้อป
- บริการประกันครั้งแรกในวงการค้าปลีก ด้วยบริการด้านประกัน อาทิ ประกันการเดินทาง, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันสุขภาพ, ประกันรถยนต์ และการขยายระยะเวลารับประกันผลิตภัณฑ์ (Extended Warranty)
- บริการบัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล
- Bill Payment บริการรับชำระค่าบริการ อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคได้ในครั้งเดียว
เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและผู้ถือบัตร SCB M VISA เพื่อช่วยให้สนุกกับการช้อปปิ้งมากขึ้น
- I-RESERVED PARKING รูปแบบใหม่การจองที่จอดรถภายในห้าง ซึ่งถือเป็นบริการพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต SCB M LEGEND VISA INFINITE และ SCB M LUXE VISA SIGNATURE
- CHATBOT ผ่าน LINE THE MALL GROUP ผู้ช่วยในการตอบคำถาม และช่องทางในการสั่งซื้อสินค้า
- Indoor Navigation เครื่องมือนำทางภายในศูนย์การค้า เพื่อความสะดวกในการค้นหาร้านค้า
ทั้งนี้ ในช่วงแรกเดือนสิงหาคมนี้ ได้เปิดตัวบัตรเครดิตและบัตรเดบิต SCB M VISA, SMART EDC และเทคโนโลยีด้านการบริการ I-RESERVED PARKING ซึ่งผลิตภัณฑ์อื่นๆ จะทยอยเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2561 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ลูกค้าห้างดังไม่ควรพลาด