เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ Corporate Venture Capital รายล่าสุดจากเอสซีจี อย่าง “AddVentures” โดยมาพร้อม วิสัยทัศน์ “ You Innovate, We Scale” หวัง ยกระดับ Ecosystem ด้วย องค์ ความรู้ เครือข่าย และฐานลูกค้าทั่วอาเซียน ปู พรมพัฒนานวัตกรรม 3 กลุ่มหลัก “ Enterprise-Industrial-B2B” เพื่อพลิกโฉมธุรกิจ-เพิ่มขี ดความสามารถในการแข่งขัน-สร้ างสรรค์สินค้าและบริการที่ดี และเร็วยิ่งกว่าให้ลูกค้า
คุณยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จั ดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่ยุค Digital Transformation ที่เทคโนโลยีเข้ ามามีบทบาทอย่างมากในการทำให้ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปนั้น ถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับธุรกิ จและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ทันกับสถานการณ์
ที่ผ่านมา เอสซีจีให้ความสำคัญกับการพั ฒนานวัตกรรมเพื่อเตรียมความพร้ อมสำหรับการปรับตัวรับความเปลี่ ยนแปลงต่างๆ เสมอมา แต่ด้วยบริ บทของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้ นอย่างรวดเร็ว เอสซีจี จึงตั้งบริษัทในรูปแบบ Corporat e Venture Capital หรือ CVC ภายใต้ชื่อ “ AddVentures” ขึ้น เพื่อเสริมศั กยภาพและลงทุนในสตาร์ทอั พไทยและทั่วโลก ให้เอสซีจี สามารถเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขี ดความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งยังทำให้ลูกค้าได้ใช้สิ นค้าและบริการที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิ ตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
คุณยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี
ทั้งนี้ การจัดตั้ง AddVentures ถือเป็ นอีกก้าวสำคัญที่เอสซีจีจะได้ร่ วมสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวั ตกรรมใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูง กับกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีจุดเด่ นในเรื่อง Spirit ของ Entrepren eurship และการสร้าง Innovation ที่ถือเป็น Outside-in innovation จากการ มองในมุมของผู้ บริโภคอย่างแท้จริง เมื่ อประกอบกับ Speed ในกระบวนการทำ งานที่เรียกว่า Lean Startups รวมทั้งการใช้ Digital technology จึงทำให้ข้อจำกั ดในการทำธุรกิจแบบเดิมๆ หายไป และทำให้สตาร์ทอัปทุ กวันนี้มีพลังมหาศาลแบบที่ไม่ เคยมีมาก่อน
“เราเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกั บสตาร์ทอัปที่มีความเชี่ ยวชาญในการคิดหนทางแก้ปัญหาที่ น่าสนใจให้กับลูกค้าได้อย่ างรวดเร็ว และมีความโดดเด่นเฉพาะตั วของสตาร์ทอัปแต่ละราย โดยไม่ยึดติดกับวิธีการหรือข้ อจำกัดเดิมๆ จะสามารถสนับสนุนให้พวกเขา Scal e up หรือขยายให้ธุรกิจเติบโตต่ อไปได้ พร้อมทั้งยังช่วยเสริ มรากฐานระยะยาว ให้เอสซีจี กลายเป็นองค์กรที่มีการนำดิจิทั ลมาประยุกต์ใช้เพื่อการเติ บโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต” นายยุทธนา กล่าว
การจัดตั้ง AddVentures ยังมีจุ ดมุ่งหมายเป็นส่วนสำคัญในการสนั บสนุน Startup Ecosystem ของไทยและอาเซียนให้ แข็งแกร่ง โดยนำศักยภาพและจุดแข็งต่างๆ ของเอสซีจีเข้าไปช่วยต่อยอด และก่อให้เกิดประโยชน์จากการสร้ างความร่วมมือเพื่อพัฒนาแวดวงธุ รกิจในองค์รวมให้ดียิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0 ” ที่ต้องการต่อยอดอุ ตสาหกรรมเดิม และยกระดับให้เกิด New S-Curve อุตสาหกรรมใหม่ ของประเทศ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและรั งสรรค์นวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่ มขีดความสามารถทางการแข่งขั นในเวทีโลกได้
นายยุทธนา กล่าวอีกว่า เพื่อให้การดำเนินงานของ AddVen tures เป็นไปได้ตามเป้าหมาย เอส ซีจีจึงได้แต่งตั้งผู้บริ หารใหม่ คือ ดร.จาชชัว แพส ซึ่งมีประสบการณ์คร่ำหวอดในด้ านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมานับ 10 ปี และมี ความชำนาญในหลากหลายแวดวงธุรกิจ ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จั ดการ AddVentures ดูแลทิ ศทางภาพรวมของบริษัท
ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures
ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentur es กล่าวว่า การจัดตั้ง AddVentures มาพร้ อมด้วยวิสัยทัศน์ “You Innovate, We Scale” สื่อถึงความเป็นองค์กรที่ เปิดกว้างสำหรับความร่วมมือกั บสตาร์ทอัปที่ต้องการส่งต่ อเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีกว่า เร็วกว่า และคุ้มค่ากว่าให้แก่คู่ค้าหรื อผู้บริโภค โดย AddVentures จะไม่ได้สนั บสนุนแค่ด้านการเงินให้แก่สตาร์ ทอัป แต่จะสนับสนุนทั้งองค์ความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงต่างๆ เครือข่ายลูกค้าของเอสซีจีที่มี อยู่ทั่วอาเซียน ตลอดจนทรัพยากรอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้สตาร์ทอัปเหล่านั้นเติบโตได้อย่างรวดเร็ วและยั่งยืน
สำหรับการลงทุนในช่วง 3 – 5 ปีแรก AddVentures วางงบประมาณในการลงทุนเฉลี่ยครั้ งละ 1 – 5 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งการลงทุนออกเป็น 2 กลุ่มหลั ก ได้แก่
1.การลงทุนใน Digital Technology ในกลุ่มที่เป็น Glob al Technology Hub อย่างเช่น Silicon Valley ประเทศสหรัฐอเมริกา , Tel Aviv ประเทศอิสราเอล และ Shenzhen ประเทศจีน เป็นต้น โดยจะร่วมมือกับ Venture Capital ชั้นนำในประเทศดังกล่ าวเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ ขยายผลกับเอสซีจี หรือทำการเปิ ดตลาดในประเทศไทยและอาเซียน
2.ก ารลงทุนใน Digital Business Model ในไทยและอาเซียนซึ่งเป็ นประเทศที่เอสซีจีมีฐานธุรกิจ โดยจะทำการลงทุนผ่านกองทุน Vent ure Capital และการลงทุนโดยตรง ( Direct Investment) ในสตาร์ทอัปที่พัฒนานวัตกรรมซึ่ งสอดคล้องกับทิศทางเทคโนโลยีเป้ าหมายของ AddVentures
พันธมิตรและเทคโนโลยีเป้าหมายที่ AddVentures สนใจลงทุน ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Enterprise, Industrial และ B2B โดยภายใต้แต่ละกลุ่มหลัก ยังมีกลุ่มย่อยๆ เช่น Logistics & Supply Chain Tech, Smart Packaging Tech, Chemicals Tech, Construction Tech, Industrial & Manufacturing Tech, Industrial & Construction Product Marketplace เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะเป็นเทคโนโลยีที่ สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลั ก 3 กลุ่มของเอสซีจี ได้แก่ 1.ธุรกิจซิเมนต์และผลิ ตภัณฑ์ก่อสร้าง 2.ธุรกิจเคมิ คอลส์ และ 3.ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ขณะที่รูปแบบการลงทุนเปิดกว้ างทั้งความร่วมมือเชิงพาณิชย์ ( Commercial Deal) ทั่วไป การอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สิ นทางปัญญา ( Licensing) การร่วมทุน ( Joint Venture) ไปจนถึงการเข้าซื้อกิ จการในสตาร์ทอัปนั้นๆ
“ AddVentures เปิดกว้ างและอยากเชิญชวนเหล่าสตาร์ทอั พให้เข้ามาร่วมงานกับ AddVentur es โดยไม่จำเป็นต้องเป็นองค์ กรขนาดใหญ่ ขอเพียงมีจุดมุ่งหมายในการส่ งมอบนวัตกรรมที่ดีกว่า เร็วกว่า และคุ้มค่ากว่าให้แก่สังคม รวมทั้งมีไอเดียและความมุ่งมั่ นที่จะทำให้เกิดขึ้นจริง เราก็สามารถเดินทางและเติ บโตไปด้วยกันได้ดังวิสัยทัศน์ Y ou Innovate, We Scale” ดร.จาชชัว กล่าว
สำหรับสตาร์ทอัพทั่ วโลกที่สนใจร่วมงานกับ AddVentu res สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติ มได้ทาง www.addventures.co.th และ facebook.com/ AddVenturesbySCG หรือ LinkedIn : AddVentures by SCG