โอกาสทองของนักโฆษณาและเหล่าแบรนด์รอทุกคนอยู่แล้วในตลาดเพลงออนไลน์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งที่ทำให้สามารถสรุปเช่นนี้ได้คือการสำรวจของ McKinsey ที่ชี้ว่าตลาดสตรีมมิงเพลงช่วงปี 2011 ถึง 2015 นั้นมีอัตราเติบโตมากกว่า 20 เท่าตัว
การเติบโตที่มากกว่า 20 เท่าตัวนั้นเทียบจากตัวเลขเฉลี่ยทั่วโลกในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแม้เอเชียจะมีส่วนแบ่งราว 14% ของรายได้จากธุรกิจเพลงดิจิทัลทั่วโลก แต่ McKinsey พบว่าตลาดเอเชียกำลังขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นพื้นที่พำนักของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 44% ของทั้งหมดในปี 2015 และเป็นเจ้าของ GDP โลกราว 25% จากการสำรวจเมื่อปี 2013
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดเอเชียเติบโตคือบริการอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลาย จนมีการคาดการณ์ว่าประชากรดิจิทัลในเอเชียจะเติบโตราว 15% ทุกปี ตัวเลขนี้เป็นไปตามสัดส่วนการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนี่เองที่เป็นกุญแจสำคัญให้ตลาดสตรีมมิงเพลงมี potential เติบโตในทางเดียวกัน
ในขณะที่ Spotify และ Apple Music ได้รับความนิยมในโลก แต่ผู้ให้บริการสัญชาติเอเชียอย่างบริการ Joox เครือ Tencent กลับกินรวบเบอร์ 1 ในตลาดอาเซียน โดย KKBox และ Yonder ก็มีตัวเลขการเติบโตที่น่าสนใจ ผลจากเพลงท้องถิ่นรวมถึงประสบการณ์การใช้งานที่คนเอเชียคุ้นเคย
สำหรับประเทศไทย บริการเพลงออนไลน์ที่ McKinsey พบว่าได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Joox รองลงมาคือ Line Music, Apple Music, KKBox และ SoundCloud
อย่างไรก็ตาม McKinsey พบว่าชาวเอเชียบางส่วนยังไม่อยากเสียเงินสมัครค่าบริการเพลงออนไลน์ ขณะที่บางกลุ่มยังใช้โทรศัพท์ที่ไม่รอบรับ จุดนี้ทำให้ McKinsey มองว่านี่คือโอกาสที่แบรนด์จะจับมือกับบริการเหล่านี้ เพื่อให้บริการเพลงพ่วงโฆษณา ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Coca-Cola ที่เป็นสปอนเซอร์จัดงาน World Music Day กับ Joox จนได้รับเสียงตอบรับล้นหลาม
ที่มา : Campaignasia