Site icon Thumbsup

Sea Limited ระดมทุนเพิ่ม เดินหน้า Shopee ต่อ

การระดมทุนของ Sea Limited ในครั้งนี้ มาจากการเสนอขายหุ้นแปลงสภาพ (Convertible Notes) มูลค่ารวมกว่า 575 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทาง  Sea วางแผนที่จะนำเงินทุนที่ได้รับในครั้งนี้เพื่อขยายธุรกิจ และใช้ในการบริหารระดับองค์กร รวมทั้งผลักดันและขยายการเติบโตของ Shopee ซึ่งเป็นธุรกิจE-commerce ของบริษัทในทุกภูมิภาค

ฟอเรสต์ ลี ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทในกลุ่ม Sea กล่าวว่า เงินทุนที่ได้มาในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับงบดุลของบริษัท ซึ่งถือว่าเรามีความพร้อมอย่างมาก ในการที่จะดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อคว้าโอกาสในการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ E-commerce ที่เราให้ความสำคัญ และกำลังเติบโตจนเป็นผู้นำระดับภูมิภาคอยู่ในขณะนี้

เนื้อหาในแถลงการณ์

การที่บริษัทได้รับความสนใจอย่างมากต่อการระดมทุนในครั้งนี้ เป็นตัวชี้ให้เห็นว่านักลงทุนระดับโลกให้ความสนใจในบริษัท Sea ที่มีลักษณะธุรกิจอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้

“เราเชื่อว่าการเสนอขายหุ้นแปลงสภาพในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มทุนที่มีประสิทธิภาพในด้านต้นทุนสำหรับนักลงทุนระดับโลกที่มีความต้องการลงทุนในภูมิภาคนี้ เรารู้สึกยินดีที่การเพิ่มทุนครั้งนี้นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับนักลงทุนเดิมที่มีอยู่หลายราย รวมทั้งพันธมิตรและนักลงทุนรายใหม่ๆ ที่เล็งเห็นถึงความเป็นผู้นำในตลาดของบริษัท Sea และจะมาร่วมแบ่งปันความน่าตื่นเต้นในศักยภาพของภูมิภาคนี้ไปกับเรา”

Shopee มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วเกินกว่าเป้าหมายเดิมที่ได้ตั้งไว้อย่างสูง และกำลังได้รับประโยชน์จากการพัฒนาความมีประสิทธิภาพด้านการจัดการต้นทุนไปพร้อมๆกับการเติบโตของธุรกิจ บริษัทมีความตั้งใจที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในการขยายความเป็นผู้นำของธุรกิจ E-commerce และนำเสนอบริการที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งรับรองได้ว่าผู้ใช้บริการของ Shopee ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายในทุกประเทศในภูมิภาคนี้ จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบน Shopee

การเติบโตอย่างรวดเร็วและการพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนของ Shopee

Shopee มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมาและในไตรมาสแรกของปี 2561 มีการรายงานถึงยอดขายสินค้ารวม (Gross Merchandize Value “GMV”) อยู่ที่ 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 199.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2560 ซึ่งบริษัทได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขการคาดการณ์ของ GMV ตลอดทั้งปี 2561 ไว้ที่ 8,200 – 8,700 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 99.4–111.5%

ก่อนหน้านี้ Sea ได้มีการคาดการณ์ว่า GMV จะอยู่ที่ 7,500 – 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนในการเติบโต 82.4 – 94.5% เท่านั้น

นอกจากนี้ Shopee ยังได้รับประโยชน์จากการพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนซึ่งมีผลมาจากการขยายตัวของธุรกิจ และมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขายและการทำการตลาดของ Shopee ที่ลดลงในไตรมาสแรกของปี 2561 ซึ่งลดลงทั้งในแง่เม็ดเงินและสัดส่วนต่อ GMV เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2561 Shopee มีค่าใช้จ่ายด้านการขายและการทำการตลาดอยู่ที่ 6.6 เปอร์เซนต์ของ GMV เมื่อเทียบกับ 8.5 เปอร์เซนต์ของ GMV ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560

ในไตรมาสที่ผ่านมา Shopee ยังได้มีการแนะนำบริการใหม่ๆให้กับผู้ขาย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่ากับการให้บริการ รวมทั้งยังเสริมสร้างประสบการณ์ในการใช้บริการแพลตฟอร์ม E-commerce บน Shopee ที่ถือได้ว่ามีการเติบโตในด้านผู้ใช้งานที่เป็นผู้ขายอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาค

บริการที่กล่าวมานี้รวมถึง “Service by Shopee” ซึ่งมีหลายตัวเลือกให้ทางผู้ขายได้รับบริการที่อำนวยความสะดวก เช่น บริการด้านการจัดการคลังสินค้า การจัดการร้านค้าออนไลน์ และการเติมเต็มในการให้บริการด้านอื่นๆ รวมไปถึง ‘Shopee Logistics Service’ ซึ่งเป็นการให้บริการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ขายที่ต้องการความช่วยเหลือเนื่องจากความซับซ้อนในด้านการขนส่ง เช่น การส่งสินค้าข้ามเขตประเทศ เป็นต้น

ดูเหมือนว่าตลาด E-commerce ยังแข่งขันกันดุเดือดแน่นอน หาก Shopee เร่งเครื่องแบบนี้ คาดว่าทาง Lazada ในมือของ Alibaba เองก็คงจัดเต็มไม่แพ้กัน แม้จะเป็นเรื่องดีสำหรับลูกค้า แต่สำหรับธุรกิจด้วยกัน คงยากที่จะไปเผาเงินสู้เสียแล้ว