SEAC (Southeast Asia Center) หรือ เอสอีเอซี ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในการพัฒนาชีวิต และการเรียนรู้ตลอดทุกช่วงชีวิต รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยน Mindset ของการเรียนรู้ เพื่อให้คนไทยเข้าใจกับคำว่า Learning แบบจริงๆ ภายใต้ “Lifelong Learning Concept”
คุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC (South East Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน บอกกับทีมงานของ thumbsup ว่าอยากพัฒนาศักยภาพคนไทยให้ขึ้นไปยืนได้แบบสง่าผ่าเผยบนเวทีโลก
โดยคุณอริญญา เล่าว่า “ทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่คนเรียน แต่อยู่ที่วิธีการสอน” ทาง SEAC จึงได้ลงมือทำภารกิจเพื่อให้คนไทยเกิดความเข้าใจว่า การเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดว่าในแต่ละช่วงอายุว่าสมควรจะเรียนอะไร แต่สามารถเรียนรู้ได้ทุกเมื่อและในช่วงอายุเท่าไรก็ได้
SEAC กับการสร้าง Mindset ของการเรียนรู้
หากมองภาพรวมจะพบว่าในช่วงนี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป แต่ทำอย่างไร “คน” ถึงจะยังปรับตัวอยู่ในองค์กร เพราะเรามักเห็นข่าวสารเรื่องการลดจำนวนพนักงานขององค์กรลง แต่อยากให้คนไทยตื่นมาแล้วรู้ว่าถ้ามี Learning Mindset จะไม่ต้องกลัวกับปัญหาที่จะต้องเจอ หากคุณมี Mindset ของการเรียนรู้ ก็จะอยากหาความรู้อย่างไม่จำกัด ทำให้ SEAC อยากให้คนไทยเข้าใจกับคำว่า Learning แบบจริงๆ
เพราะเราไม่ได้อยู่ในโลกที่ใช้ทักษะเเบบเดิมๆ อีกแล้ว ประกอบกับการวิเคราะห์ว่าหลักสูตร 4.0 คืออะไร ทำให้รู้ว่าจุดสุดท้ายที่อยากมุ่งมั่นให้คือให้คนไทย คิดเป็น แก้ปัญหาได้ เพื่อยกระดับวิธีคิดให้สามารถแก้ปัญหาได้ รวมทั้งช่วยสร้างให้ประเทศเราเติบโต
ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมของ SEAC ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งเป้าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับองค์กรยุคใหม่ให้ก้าวไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในสหัสวรรษใหม่ ด้วยหลักสูตรและกระบวนการคิดเกี่ยวกับ “ภาวะผู้นำ” (Leadership) และการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovation)
ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และได้รับการตอบรับจากองค์กรชั้นนำในประเทศทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ครอบคลุมทั้งกลุ่มธุรกิจ การเงิน การธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ FMCG ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโรงพยาบาล ฯลฯ รวมจำนวนผู้ร่วมเรียนรู้กว่า 30,000 คนในปีนี้ และสำหรับทิศทางใหม่ของธุรกิจนี้ SEAC วางเป้าหมายให้มีผู้เรียนในหลักสูตรดังกล่าวถึง 90,000 คน ภายในปีหน้า
เทรนด์ของโลกในยุค 2019
ผู้บริหารหลายคนบอกว่าปีหน้านั้นจะแย่กว่านี้หากไม่ปรับตัว เพราะหลายอย่างในโลกที่เราอยู่นั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จะพบว่าจากที่ไม่ต้องแชร์ข้อมูลทุกอย่างให้ใครทราบ แต่กลับยอมเปิดเผยทุกอย่างใน Social Media หรือการซื้อของในห้างสรรพสินค้าที่ปัจจุบันนี้กลับซื้อทุกอย่างในออนไลน์แทน ซึ่งแสดงว่าเรากำลังอยู่ในโลกของ New Normal ที่เกิดสิ่งใหม่ๆ จนกลายเป็นเรื่องธรรมชาติ
ประกอบกับในปี 2019 นั้นประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมไทยสังคมสูงอายุมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสำหรับเหล่าคนสูงวัยในเรื่องของการทำงาน ดังนั้น SEAC จึงตั้งใจที่จะช่วยแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ ด้วยการเปิดกว้างให้เด็กตั้งแต่อายุ 11 ปี ไปจนถึง 65 ปีขึ้นไป สามารถเรียนในหลักสูตรเดียวกันได้ เพราะการเรียนรู้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ ถึงแม้ว่าจะอายุ 70 ก็สามารถเจออาชีพใหม่ในการทำงานได้ หากสิ่งที่เรียนมาไม่เหมาะสมกับทักษะที่มีอยู่ก็สามารถเพิ่มเติมความรู้ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ โจทย์คือทำอย่างไรให้เด็กไทยเรียนจบแล้วมีคุณภาพทันที ในแบบที่องค์กรไม่ต้องเสียงบพัฒนาศักยภาพเยอะๆ ควบคู่กับการยกระดับของการศึกษาของไทยให้ได้ความรู้ ตามคำกล่าวที่ว่า “ทำอย่างไรให้คนเรียนเอาไปใช้ ไม่ใช่ไปสอบ” เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าหน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชนหลายๆ แห่ง พยายามที่จะยกระดับการศึกษาของไทยให้ดีกว่าเดิม โดยเราตั้งใจที่จะนำคำตอบที่พูดกันว่า การศึกษาบ้านเราสู้หลายๆ ประเทศไม่ได้ แล้วเราจะสร้างคนที่มีคุณภาพได้อย่างไร
YourNextU BY SEAC
สิ่งที่ SEAC ทำคือ การสร้าง “4 Line Learning” เพื่อรองรับรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละคน พร้อมกระตุ้นให้คนเกิดความอยากรู้ เรียนรู้
ด้วย 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่
- การเรียนรู้แบบ Online – เน้นการเรียนรู้ผ่านหลักสูตรด้วยวิดีโอคลิป หรือ Visual ต่างๆ
- การเรียนรู้แบบ Inline – เน้นการเข้าคลาสเพื่ออบรมในหลักสูตรต่างๆ หรือ Subscription โดยคำนึงถึงระยะเวลาการเรียนที่เหมาะสม โดยจัดเป็นคอร์สสั้นๆ ครั้งละไม่เกินครึ่งวัน
- การเรียนรู้แบบ Beeline – เน้นการเรียนรู้ในรูปแบบแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล หรือเรื่องราวจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน วิทยากร นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านต่างๆ ผู้นำทางความคิด หรือกิจกรรมพิเศษในหลากหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับหัวข้อการเรียนรู้แต่ละครั้ง
- การเรียนรู้แบบ Frontline –คลังการเรียนรู้ที่สามารถให้ผู้เข้าเรียนเข้าถึงข้อมูลการเรียนรู้ และดาวน์โหลดออกมาเป็นคัมภีร์พิชิตความสำเร็จ โดยเบื้องต้นได้ร่วมมือกับสถาบันระดับโลก
หลักสูตรระดับโลกที่เข้าถึงได้ทุกคน
ความน่าสนใจของหลักสูตรนี้ จะต่างจากการเรียนรู้แบบเดิม คือ วางแผนการเรียนตามสิ่งที่ตนเองอยากรู้ ด้วยการทำออกมาในรูปแบบการเป็นสมาชิก ซึ่งสามารถเรียนเท่าไร ในกี่วิชาก็ได้ หรือจะเรียนซ้ำในวิชาไหนก็ได้ ในราคาแค่ 10,000 บาท/คน/ปี เท่านั้น
ในการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ ภายใต้โมเดลชื่อ “YourNextU” ซึ่งประกอบด้วย
- หลักสูตร Online กว่า 100 หลักสูตร Inline กว่า 40 หลักสูตร
- หลักสูตร Beeline กว่า 40 โปรแกรม และคลังข้อมูล Frontline ที่สามารถดาวน์โหลดได้ ไม่จำกัด
- ตัวอย่างในหลักสูตร YourNextU เช่น Design Thinking: Empathizing
to Discover Opportunities, Creative Connection: 7 Creative Problem Solving
Strategies, New Me New Land: Overcoming
Change Resistance ฯลฯ
- พร้อมทั้งพัฒนาหลักสูตรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ทันต่อสถานการณ์ เช่น Business Management 4.0, Data Analysis, ArtificialIntelligence and Machine Learning, Cloud computing and Web Service เป็นต้น
ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวจะมีการเปิดสอนอย่างเป็นทางการภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่จะถึงนี้ (สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่ www.yournextu.com หรืออีเมล์ไปที่ askme@yournextu.com) เรียกได้ว่าเป็น แพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบผสมผสาน หรือ blended learning platform ที่แรกของโลก ซึ่งหากลงหลายๆ คอร์สแยกกันก็อาจมีราคาสูงถึงหลักแสนได้
อย่างไรก็ตาม การเรียนจากคณาจารย์ระดับโลกในรูปแบบออนไลน์ หลายคนอาจกังวลในเรื่องของภาษา ซึ่งทาง SEAC จัดทำให้แต่ละหลักสูตรมีซับไตเติ้ลภาษาไทยช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจเนื้อหาได้เหมือนเรียนจากภาษาอังกฤษโดยตรง รวมทั้งผู้เรียนยังสามารถเลือกเรียนกับอาจารย์ท่านใดก็ได้ที่ต้องการ ซึ่งจะมีระบบให้คะแนนกับอาจารย์หลังเรียนเสร็จ เพื่อให้ทราบว่าผู้สอนท่านใดให้ข้อมูลได้ตรงกับผู้เรียนมากที่สุด
สิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่ SEAC อยากเปลี่ยนภูมิภาคอาเซียนที่มีประชากรประมาณ 650 ล้านคน ให้กลายเป็นภูมิภาคที่แข็งแกร่งด้วยความรู้ ไม่เพียงแค่ชาติมหาอำนาจอย่างแค่จีนและสหรัฐ โดยตั้งใจทำให้เร็วที่สุดเพื่อแข่งกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน
บทความนี้เป็น Advertorial