เอเชียนั้นได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีอัตราการถ่ายภาพตัวเองหรือ Selfie มากที่สุดในโลก แบรนด์ความงามในวันนี้ได้รับอานิสงส์จากวัฒนธรรม Selfie เพราะ Selfie ช่วยสร้างสื่อใหม่ สร้างตลาดใหม่ แถมยังเพาะบ่มเพื่อการเติบโตในอนาคต ทั้งหมดนี้ทำให้แบรนด์ความงามเอเชียทำยอดขายเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดอย่างน่าสนใจ
การสำรวจปี 2014 โดยนิตยสาร Time พบว่า 4 ใน 10 เมืองที่มีการถ่าย Selfie มากที่สุดนั้นอยู่ในเอเชีย ปัจจัยหลักไม่ได้เป็นเพราะเอเชียคือที่อยู่อาศัยของประชากรโซเชียลเกินครึ่งโลกเท่านั้น แต่อยู่ที่แบรนด์สมาร์ทโฟนเอเชียอย่าง Huawei และ Samsung ที่แข่งกันพัฒนาความสามารถกล้องหน้าให้เหนือชั้นถ่ายสวยยิ่งขึ้น รวมถึงแอปพลิเคชันแต่งภาพมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐที่ทำให้การถ่ายภาพ Selfie ออกมาสวยใสสมใจคนถ่าย
ความสวยของภาพ Selfie ทำให้แบรนด์ความงามมีสื่อช่องทางเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น วันนี้หลายแบรนด์ลงมือสร้างแอปหรือบริการอื่นที่จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์จากแบรนด์ผ่านการ Selfie ซึ่งทำให้แบรนด์มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบส่วนตัวในเชิงที่ลึกขึ้น พร้อมกับที่ช่วยให้สาวๆ สามารถควบคุมภาพถ่ายตัวเองได้ดีขึ้น
จุดที่ทำให้แบรนด์ความงามมักเล่นกับสังคมนัก Selfie คือคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มสูงในการให้ความสำคัญกับ “ใบหน้าเรียว ตากลมโต และผิวสุขภาพดี” สูงมาก ซึ่งทั้ง 3 จุดนี้ถูกนำมาเป็นจุดขายของสินค้าความงามเอเชียอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในสินค้าแบรนด์เกาหลี
วันนี้เครื่องสำอางเกาหลีครองพื้นที่เกือบ 1 ใน 4 ของสินค้าที่ถูกนำเข้าไปจำหน่ายในจีน ส่งให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางแดนกิมจิมีอัตราเติบโตเป็นเลข 2 ตัวหรือ double-digit ทุกปีตั้งแต่ปี 2010 ตลาดความงามเอเชียที่เติบโตเร็วเช่นนี้ ทำให้กลุ่ม “Asian selfie-taker” กลายเป็นตลาดหลัก key target audience ที่จะอยู่แถวหน้าสุดในการรับฟังสารจากแบรนด์ ความจริงข้อนี้สะท้อนว่า Selfie ช่วยสร้างตลาดให้แบรนด์ความงามเอเชียได้อย่างชัดเจน
รายงานจาก Campaign Asia พบว่าแคมเปญสไตล์ Selfie เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายเครื่องสำอางมากกว่า 13% ในปี 2016 เนื่องจากหลายคนลงมือแต่งหน้าเพื่อให้พร้อมต่อการถ่าย Selfie เรียกว่าต้องการกลบจุดอ่อนบนใบหน้าแบบทันใจ
อีกวัฒนธรรม Selfie น่าสนใจในเอเชียคือการถ่ายภาพหน้าสด ซึ่งทำให้แฮชแทค #NoFilter และ #NoMakeup กลายเป็นเทรนด์ซึ่งเข้ากับแบรนด์ความงามเอเชีย
สินค้าที่ได้รับอานิสงส์เต็มที่จากเทรนด์ Selfie หน้าสดถูกยกให้เป็นแป้ง cushion compact ยอดขายแป้งที่ถูกโฆษณาว่าปกปิดได้อย่างเป็นธรรมชาติซึ่งเป็นนวัตกรรมของแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีนั้นทะลุ 50 ล้านตลับในเวลาไม่ถึง 10 ปี
#NoFilter และ #NoMakeup ยังเป็นเทรนด์ที่ถูกมองว่าจะขยายตัวไปโดนใจสาวตะวันตกด้วย จุดนี้อาจทำให้เทรนด์นิยมความงามแบบแต่งหน้าจัดเต็มสไตล์ Kardashian มีคู่แข่ง เบื้องต้นมีการประเมินว่าแบรนด์ความงามเอเชียจะเติบโตจนคิดเป็น 80% ของยอดขายเครื่องสำอางโลกในปี 2019
สรุปแล้ว แบรนด์ความงามในวันนี้ได้รับอานิสงส์จากวัฒนธรรม Selfie ทั้งในแง่การเป็นสื่อใหม่ การสร้างตลาดใหม่ และการเพาะบ่มเพื่อการเติบโตในอนาคต สำหรับปีนี้ ยอดขายเครื่องสำอางเอเชียจะมีมูลค่าเกิน 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าเม็ดเงินนี้จะทำให้แบรนด์ส่วนใหญ่กันงบประมาณออกมาทำแคมเปญทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างคึกคัก
ที่มา: CampaignAsia