Sephora เป็นแบรนด์ที่สาวกความสวยความงามรู้จักกันดี ล่าสุด Sephora หันมาใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาความไม่สะดวกในการทดลองเครื่องสำอางทั้งปวงที่เกิดขึ้นในร้าน นั่นคือกระจก 3 มิติหรือ 3D mirror ที่ทำให้เหล่าบิวตี้เลิฟเวอร์สามารถทดลองแต้มสีสันบนใบหน้าได้แบบเรียลไทม์ ด้วยการปาดหน้าจอแสนง่ายและสะดวก
กระจก 3D ของ Sephora เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภาพเสมือนจริงหรือ augmented reality เพื่อให้กระบวนการซื้อขายเครื่องสำอางในร้าน Sephora ทำได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และมีสีสันยิ่งขึ้น โดยกระจกนี้จะช่วยจำลองภาพใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของลูกค้า ซึ่งเมื่อลูกค้าเลื่อนดูสินค้าของร้านจนพบชิ้นที่ต้องการ แล้วทดลองปาดสีบนกระจกเพื่อตรวจว่าสีสันนั้นเข้ากับใบหน้าหรือไม่ ลูกค้าจะสามารถเปลี่ยนสีเพื่อทดลองสินค้าชิ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
วิธีนี้ถือว่า Sephora สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี เพราะที่ผ่านมา Sephora เข้าใจหัวอกลูกค้าที่ไม่ต้องการซื้อสินค้าที่ไม่ได้ทดลอง แต่การทดลองสินค้านั้นก็ไม่สะดวกในบางครั้ง เนื่องจากลูกค้าบางรายแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าไว้แล้ว ขณะที่การทดลองสีบนหลังมือก็ไม่เห็นภาพเท่าการแต้มสีบนใบหน้าจริง ทั้งหมดนี้ทำให้กระจกไฮเทคของ Sephora สามารถตอบทุกปัญหาได้
สื่อมวลชนอเมริกันยกย่องให้กระจก 3 มิติของ Sephora เป็นสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบการซื้อขายในร้านค้าปลีกเครื่องสำอางของโลกอนาคต โดยกระจกนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Sephora กับบริษัท ModiFace ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภาพเสมือนจริง และใช้เวลาวิจัยเทคโนโลยีเบื้องหลังกระจกนี้นานกว่า 3 ปี
การเปิดตัวกระจกนี้ทำให้ Sephora ถูกกล่าวขานว่าเป็นตัวอย่างของการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้อุตสาหกรรมความงาม โดยความกล้าหาญนี้ตอกย้ำว่า Sephora เป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้นำของอุตสาหกรรม beauty retail จุดนี้รายงานระบุว่า ผู้ใช้จะได้เห็นภาพตัวเองบนกระจกแบบ 3 มิติคมชัด แถมสีสันบนใบหน้ายังเปลี่ยนแปลงไปตามสินค้าที่ทดลองแบบเรียลไทม์
น่าเสียดายที่กระจกเทพของ Sephora ยังไม่มีให้บริการในสาขาประเทศไทย โดยยังติดตั้งไว้เฉพาะร้านสาขาเมืองมิลาน ประเทศอิตาลีเท่านั้น ซึ่งหากเสียงตอบรับจากผู้ใช้และพนักงานขายออกมาดี ก็ย่อมมีความเป็นไปได้สูงที่ Sephora จะนำกระจกนี้มาใช้กับทุกสาขาทั่วโลก รวมถึงตู้คีออสค์แยกเดี่ยวหรือ standalone retail kiosk ที่ Sephora ให้บริการในหลายประเทศ
ติดตามการทำงานของกระจก 3D นี้ได้จากวิดีโอด้านล่าง
ที่มา : PSFK