ร้านเซเว่นฯ เปิดตัว Flagship Store สาขาแรกแล้วในประเทศไทยที่แจ้งวัฒนะในชื่อสาขาสาธิตพีไอเอ็ม โดยถือเคล็ดเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการเปิดตัวเป็นการภายในไปแล้วตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หรือตรงกับวันที่ 7-11 ตามชื่อร้าน ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยภายใน Flagship Store เต็มไปด้วยเทคโนโลยีไฮเทคมากมาย ตั้งแต่จุดชำระเงินด้วยตัวเอง ไมโครเวฟที่อุ่นอาหารได้อัตโนมัติเพียงแค่อ่านจากบาร์โค้ด หรือหุ่นยนต์เซวี่บ็อท ที่สามารถทักทายแขกได้ทั่วร้าน ซึ่ง Flagship Store แห่งนี้สร้างขึ้นภายใต้งบการลงทุนกว่า 10 ล้านบาท และใช้เวลาในการพัฒนาปรับปรุงสาขานานกว่า 60 วันเลยทีเดียว
สำหรับประสบการณ์ในสาขาใหม่แห่งนี้ ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเริ่มสะดุดตากันตั้งแต่จุดชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างของร้าน และจุดจอดรถจักรยานอัจฉริยะ Ofo ซึ่งร้านเซเว่นฯ ผนวกเข้ามาไว้ในสาขาสาธิตแห่งนี้ด้วยเนื่องจากมองว่าจะเป็นอีกหนึ่งบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคหน้าอย่างแท้จริง ส่วนด้านหลังก็มีจุดจอดรถส่งสินค้าด้วย จะได้มีพื้นที่ส่งของเป็นการเฉพาะ ไม่ต้องจอดให้เกะกะการจราจร
ต่อมาเมื่อเดินมาถึงหน้าร้าน จะพบว่า ร้านเซเว่นฯ สาขานี้เลือกที่จะเปลี่ยนป้ายแสดงโลโก้แบบที่เราคุ้นเคยมาเป็นป้าย Digital Signage ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ จึงทำให้สามารถแสดงโลโก้ หรือสัญลักษณ์ของร้านค้าได้อย่างยืดหยุ่น
ถัดมาจากป้าย Digital Signage ก็จะพบกับ จอ LED ขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยี Mesh OLED อยู่หน้าร้าน ซึ่งป้ายนี้สามารถแสดงผลได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งในการใช้แสดงผลโปรโมชันก็สามารถดึงดูดใจและมองเห็นได้ชัดขึ้น ส่วนทางขึ้นร้านนอกจากจะมีบันไดตามปกติแล้ว ยังมีทางลาดสำหรับคนพิการให้ขึ้นมาได้ด้วย
เมื่อเข้ามาในร้าน พื้นที่ขนาดประมาณ 270 ตารางเมตรของร้านยังได้ออกแบบรางล้อเลื่อนไว้ด้านบน สำหรับเป็นที่ทำงานของหุ่นยนต์เซวี่บ็อทที่จะเคลื่อนที่ไปได้รอบร้าน และสามารถทักทายลูกค้า รวมถึงแนะนำโปรโมชันต่าง ๆ ให้ ซึ่งในอนาคต อาจมีการมอบหมายหน้าที่อื่น ๆ ให้เซวี่บ็อทมากขึ้น ซึ่งความพิเศษของเซวี่บ็อทอีกประการหนึ่งคือ เป็นหุ่นที่ไม่ต้องชาร์จไฟ เนื่องจากรางเลื่อนจะมีระบบจ่ายไฟให้กับหุ่นยนต์อยู่แล้ว ทำให้สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านล่างของรางเลื่อนจะพบว่ามีการติดตั้ง Digital Wall จอดิจิทัลแสดงข้อมูลโปรโมชันต่าง ๆ ขณะที่ส่วนของตู้แช่ จะสังเกตุเห็นว่ามีประตูบานใสปิดไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะช่วยรักษาอุณหภูมิในตู้แช่สินค้าให้คงที่ และประหยัดพลังงานให้ร้านเซเว่นได้มากถึง 30% เมื่อเทียบกับตู้แช่แบบเดิม
ป้ายสินค้าดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับร้านเซเว่นฯ สาขาสาธิตพีไอเอ็มแห่งนี้ โดยการนำป้ายดิจิทัลเข้ามาใช้สามารถประหยัดเวลาในการเปลี่ยนป้ายราคาสินค้าลงได้นั่นเอง
ด้านชั้นวางสินค้าหากสังเกตก็จะพบว่ามีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างซ่อนอยู่ นั่นคือการติดหลอดแอลอีดีช่วยเพิ่มความสว่างให้กับสินค้าในทุกชั้น ซึ่งในจุดนี้ ร้านเซเว่นฯ มองว่า การติดหลอดไฟแอลอีดีจะช่วยให้สินค้าในชั้นล่าง ๆ มีความโดดเด่นและมองเห็นได้ง่ายขึ้น
ด้านนี้คือไมโครเวฟที่ทางร้านให้ลูกค้าใช้งานได้ด้วยตัวเอง ส่วนถ้าใครไม่แน่ใจว่าต้องกดปุ่มอะไร ก็เพียงนำบาร์โค้ดที่สินค้ามาสแกนที่หน้าตัวเครื่อง ระบบก็จะอุ่นอาหารให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกังวลว่าจะกดปุ่มผิด หรือถูกอีกต่อไป
ลูกค้าเซเว่นฯ อาจคุ้นเคยกันดีกับตู้กดสเลอปี้ แต่สำหรับสาขานี้พิเศษมากขึ้น เนื่องจากสามารถผสมรสชาติต่าง ๆ ได้ตามใจ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถออกแบบสเลอปี้ของตัวเองได้ว่าจะมีสีสันหรือรูปแบบอย่างไร
ส่วนจุดรับชำระเงินนี้เป็นแบบให้ลูกค้าคิดเงินด้วยตัวเอง (Self Check Out) ด้วยการสแกนบาร์โค้ด และชำระเงินได้ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งผ่านแอปพลิเคชัน หรือการรูดบัตร ซึ่งเซเว่นฯ มองว่า จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าให้คิดเงินและออกจากร้านได้เร็วขึ้น
แต่เทคโนโลยีในร้านเซเว่นฯ 4.0 นี้ยังไม่หมด เพราะจะพบว่ามีจอดิจิทัลขนาดใหญ่อีกจอหนึ่งตั้งอยู่หน้าร้านกับ Digital Touchscreen ซึ่งจอนี้ออกแบบมาเพื่อให้ใครก็ตามที่มีเหตุ หรือต้องการแจ้งข่าว สามารถมาฝากข้อความถึงกันได้ที่จอนี้
ส่วนจอนี้เป็นจอสรุปภาพรวมการประหยัดพลังงานของร้าน Digital Energy Saving Monitor สำหรับแสดงผลการประหยัดพลังงานของร้านในสามระบบ ได้แก่ ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเย็น และระบบแสงสว่าง แบบเรียลไทม์
จบด้วยจอสุดท้าย กับ 24 shopping Kiosk ที่มาเปลี่ยนประสบการณ์การสั่งซื้อสินค้าของ 24 shopping ในอดีตที่อาจต้องใช้เวลาในการรอรับสินค้าสองถึงสามวัน ไม่สามารถรับได้ทันที มาที่เซเว่นฯ สาขาสาธิตพีไอเอ็มนี้ได้ปรับสู่ online to offline ด้วยการนำจอดิจิทัลมาติดตั้ง และให้ลูกค้ากดเลือกซื้อสินค้าและนำ QR Code ไปชำระเงินและรับสินค้าได้เลย ไม่ต้องรออีกต่อไป
คุณวิเชียร จึงวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงาน Corporate Asset and Facilities Management บมจ.ซีพีออลล์ ให้ทัศนะว่า การเปิดร้าน Flagship Store ครั้งนี้เป็นการบอกว่าเซเว่นฯ กำลังปรับตัว เพราะถ้าไม่ปรับตัว เซเว่นฯ ก็อาจจะอยู่ไม่รอดได้เช่นกัน ซึ่งจากทิศทางของร้านนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า เซเว่นฯ กำลังจะเดินไปในทิศทางไหน และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นด้วยว่า จากเทคโนโลยีที่นำมาใช้ แม้จะไม่ทันสมัยไฮเทคขนาดร้านต้นแบบของ Amazon หรือ Alibaba แต่ซีพีออลล์ก็เข้าใจความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าชาวไทยได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับในปีหน้า เซเว่นฯ บอกด้วยว่าอาจมีการเปิดตัวร้านนำร่องในลักษณะนี้เพิ่มเติม