จากกระแสดราม่าร้านชาบูบุพเฟ่ต์ชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า 43 ที่ได้แจ้งกับลูกค้ารายหนึ่งว่าจะมีการคิดเงินเพิ่มจาก 349 บาท เป็น 549 บาท เนื่องจากลูกค้ารายนี้ทานเนื้อกับกุ้งจำนวนมากจนร้านไม่ได้กำไร
ด้านนาย วันเลิด พวงพยอม เจ้าของร้านชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า 41 และเป็นเจ้าของต้นตำรับชาบูนางใน ออกมาเปิดเผยว่าเปิดร้านชาบูมาตั้งแต่ปี 2552 ลงมือทำทุกอย่างเองจนมีชื่อเสียงถึงปัจจุบัน
หลายคนมาขอซื้อเฟรนไชน์ ตนเองก็ให้สูตรโดยไม่หวงและไม่คิดเงิน แต่ขอให้เน้นคุณภาพและการบริการเป็นหลัก จนปัจจุบันมีสาขากว่า 60 แห่งแล้ว
สำหรับการเปิดเฟรนไชส์แต่ละแห่ง ราคาก็ขึ้นอยู่แต่ละสาขาเนื่องจากมีพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน ราคาจึงแตกต่างกัน
ด้านโซเชียลแห่ติดแฮชแท็ก #saveชาบูนางใน และ #saveคุณลุงวันเลิด เนื่องจากดราม่าดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ชาบูนางในสาขาอื่นๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
รับมือดราม่ารักษาแบรนด์
ตั้งแต่เกิดดราม่าก็พยายามหาทางแก้ไข และน้อมรับผิดทุกอย่าง เพราะทางร้านดังกล่าวถือว่าผิดเต็มๆ การทำธุรกิจบุพเฟ่ต์ไม่ควรไปคิดเงินลูกค้าเพิ่ม
ทั้งนี้ ลุงวันเลิดจะทำการเรียกประชุมทุกสาขาเพื่อหารือแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว ซึ่งอยากให้ทุกสาขาบริการลูกค้าอย่างเต็มที่
ส่วนลูกค้าคนดังกล่าวตนจะเดินทางไปขอโทษด้วยตัวเอง และจะขอบคุณที่พูดปกป้องตนและสาขาอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว