ค่ายมือถือสิงคโปร์อย่าง Singtel ปิ๊งไอเดียใหม่! ชวนคนออกกำลังกายด้วยการเปลี่ยนจำนวนก้าวเดินให้มาเป็น point เพื่อนำไปแลกเป็นอินเทอร์เน็ตได้มากถึง 3 GB ต่อเดือน แม้ปริมาณเน็ตจะดูน้อยสำหรับคนไทยก็ตามที แต่ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว
บริษัท Singtel ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสิงคโปร์ออกแคมเปญใหม่ กระตุ้นให้คนรักสุขภาพมากขึ้น โดยร่วมมือกับกลุ่มบริษัทประกันภัยอย่าง AIA ออกแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Singtel StepUp ให้แก่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์แบบรายเดือน โดยเปลี่ยนจำนวนก้าวจากการเดินหรือวิ่ง มาเป็นคะแนนหรือ point สำหรับสะสมได้แลกเป็นสิ่งของต่างๆ ได้
แอปดังกล่าวเปิดให้ผู้ใช้สามารถสะสมแต้มเมื่อเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกายถึงเป้าหมาย ซึ่งระบบกำหนดให้ทำคะแนนได้สูงสุด 100 points ต่อวัน หรือเดินสูงสุด 10,000 ก้าวต่อวัน โดย
- เดินได้ 2,500 ก้าวต่อวัน รับเพิ่ม 10 points
- เดินได้ 5,000 ก้าวต่อวัน รับเพิ่มอีก 20 points (ได้รวม 30 points)
- เดินได้ 7,500 ก้าวต่อวัน รับเพิ่มอีก 30 points (ได้รวม 60 points)
- เดินได้ 10,000 ก้าวต่อวัน รับเพิ่มอีก 40 points (ได้รวม 100 points)
ซึ่งทุกๆ 1,000 points ที่สะสม สามารถนำคะแนนมาแลกเป็นอินเทอร์เน็ต 1 GB ในรอบบิลถัดเดือนถัดไปได้ และถ้าเดินได้ครบ 1 หมื่นก้าวในแต่ละวัน สิ้นเดือนก็จะได้เน็ต 3 GB อีกด้วย
โดย point ในแอป Singtel StepUp ยังนำไปแลกเป็นส่วนลดอาหาร-เครื่องดื่ม, ส่วนลดเรียกรถผ่านบริการ Ride-hailing, ส่วนลดตั๋วหนัง รวมถึงสามารถนำมาใช้กับโปรแกรม AIA Vitality Challenge ได้อีกด้วย
กระตุ้นคนสิงคโปร์ขยับร่างกาย
CEO ของ AIA สิงคโปร์ อ้างอิงข้อมูลจากองค์กรนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ข้อมูลดังกล่าวพบว่า 1 ใน 3 ของประชากรสิงคโปร์ไม่ได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายมากนัก
โดยพบว่าชาวสิงคโปร์ทั้งชายและหญิงมีเวลาค่าเฉลี่ยในการออกกำลังกายต่ำกว่าปกติ ซึ่งปกติแล้ว WHO ระบุว่าผู้ใหญ่ควรออกกำลังกายอย่างเบา 75 นาทีต่อสัปดาห์ และออกกำลังกายแบบจริงจัง 150 นาทีต่อสัปดาห์
ซึ่งชายชาวสิงคโปร์ 34 เปอร์เซ็นต์ และหญิงชาวสิงคโปร์ 39 เปอร์เซ็นต์ ไม่สามารถทำตามเป้าดังกล่าวได้เลย นอกจากนี้ชายทั่วโลก 25 เปอร์เซ็นต์ และหญิงทั่วโลก 33 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่สามารถออกกำลังได้ตามเป้าดังกล่าวอีกเช่นกัน
ดูแล้วเมืองไทยก็น่าลองออกแคมเปญแบบนี้ออกมาบ้าง อาจจะช่วยให้คนไทยที่มีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือและ Social Media สูง กลับมาใส่ใจการออกกำลังกายมากขึ้นก็เป็นได้
ที่มา: Business Insider และ The Straits Times