เชนร้านอาหาร Sizzler กลายเป็นธุรกิจล่าสุดที่ยื่นล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ (Chapter 11) ในสหรัฐอเมริกา หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19
Sizzler ร้านสเต๊กและสลัดบาร์ในสหรัฐเป็นแบรนด์ที่มีอายุกว่า 62 ปี จำใจต้องยื่นล้มละลายเนื่องจากการปิดร้านอาหารเป็นเวลานานจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงเจ้าของพื้นที่ปฎิเสธที่จะลดค่าเช่า
“แบรนด์ร้านอาหารหลายแห่งทั่วประเทศได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึง Sizzler ก็ไม่มีข้อยกเว้น” Chris Perkins ประธาน Sizzler กล่าวในแถลงการณ์
โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะดำเนินกระบวนการยื่นล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟู Chapter 11 ให้เสร็จสิ้นภายใน 120 วัน โดยมีร้านทั้งสิ้น 101 แห่งในสหรัฐฯ ในจำนวนนี้ 86 แห่งเป็นแฟรนไชส์
จากรายงานผลประกอบการในช่วงเดือนเมษายนปี 2020 พบว่าบริษัทมีรายได้ 197.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
ธุรกิจในไทยยังคงแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม คุณนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้บริหารร้าน Sizzler ในประเทศไทยยืนยันว่าธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง
โดยระบุว่า “Sizzler ในไทยไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีผลกระทบกับธุรกิจในไทยแต่อย่างใด เพราะ Sizzler ในไทยได้รับสิทธิ์จาก Sizzler International ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งดูแลธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด ซึ่งบริษัทดังกล่าวบริหารแยกกันกับ Sizzler สหรัฐฯ อย่างชัดเจน”
พร้อมเน้นย้ำว่าธุรกิจ Sizzler ในไทย ยังคงแข็งแกร่ง เพราะปัจจุบันยอดขายของร้านบางแห่งที่ตั้งอยู่ในเมืองได้กลับมาแซงก่อนหน้าช่วงที่จะมีการระบาดของโรคแล้ว
ทั้งนี้ Sizzler ในประเทศไทยก่อตั้งในปี 2535 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 54 สาขา พร้อมกับเดินหน้าโมเดลใหม่ “Sizzler to go” เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบของคนยุคใหม่ 5 สาขา ได้แก่ MRT พระราม 9, อโศก และศาลาแดง BTS ช่องนนทรี และเซ็นทรัลเวิลด์
อ้างอิง NRN
