ล่าสุดมีรายงานออกมาว่า บริษัท SK GLOBAL ENTERTAINMENT ที่มีผลงานชื่อดังอย่าง Crazy Rich Asians ได้สิทธิ์สร้างภาพยนตร์ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวง เตรียมเซ็นสัญญา MOU ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ที่ประเทศไทย เพื่อผลิตหนังลง Netflix
thumbsup เรียบเรียงไทม์ไลน์เพื่อทำความเข้าใจก่อนที่จะมีการเซ็นลิขสิทธิ์สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ 13 สมาชิกทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ได้พลัดหลงเข้าไปติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2561 เกิดเป็นภารกิจช่วยเหลือยาวนานถึง 17 วัน (นับวันรวมถึงวันที่คนสุดท้ายออกจากถ้ำได้เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561)
โดยการเซ็นสัญญาครั้งนี้เป็นการเซ็นสัญญาระหว่างบริษัท SK GLOBAL ENTERTAINMENT และบริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม 2562 นี้ เรามาย้อนดูกันว่าก่อนหน้านี้มีการตั้งหน่วยงานอะไรขึ้นมาเพื่อรองรับการสร้างภาพยนตร์ที่จะเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง
ตั้งบอร์ดสื่อสร้างสรรค์เน้นดูการสร้างสื่อเกี่ยวกับ “13 หมูป่า”
หลังผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวไปสักพัก วันที่ 16 สิงหาคม 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย จำนวน 34 คน โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวทำมีหน้าที่ คือ
- ประสานงานและอำนวยความสะดวกในการผลิตสื่อไทยและต่างประเทศทุกรูปแบบที่ตรงตามข้อเท็จจริงไม่กระทบผู้ประสบภัย และผู้เกี่ยวข้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ความมั่นคงของรัฐและเกียรติภูมิของประเทศ
- พิจารณาความเหมาะสมและความพร้อมในการผลิตสื่อ รวมทั้งจัดทำจดหมายเหตุและจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเชิงสร้างสรรค์
- แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อปฏิบัติงานตามความเหมาะสม
- ประสานงานและเชิญบุคคลหรือหน่วยงานมาชี้แจงหรือให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- รายงานผลการดำเนินงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ
- ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี ครม. มอบหมาย
โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561 หลังเสร็จสิ้นภารกิจการช่วยเหลือไปได้หนึ่งเดือน
ตั้งบริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด
6 มีนาคม 2562 มีรายงานว่าพบการตั้ง “บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด” เพื่อดูแลผลประโยชน์ให้กับ 13 สมาชิกของทีมหมูป่าอะคาเดมีที่เคยติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน โดยตัวบริษัทมีการจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ด้วยทุน 130,000 บาท และมีกรรมการ 8 คน ได้แก่
- นายเอกพล จันทะวงษ์ (โค้ชเอก) 1 ใน 13 คนจากทีมหมูป่าอะคาเดมี่ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง
- นางธนพร พรหมเทพ แม่ของ ด.ช.ดวงเพชร พรหมแก้ว (น้องดอม) 1 ใน 13 คนที่เคยติดอยู่ในถ้ำหลวง
- นายสมบูรณ์ แก้ววงค์วาร พ่อของ นายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ (น้องไนท์) 1 ใน 13 คนที่เคยติดอยู่ในถ้ำหลวง
- นายธนาวุธ วิบูลรุ่งเรือง พ่อของ ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง (น้องไตตั้น) 1 ใน 13 คนที่เคยติดอยู่ในถ้ำหลวง
- นางพัชนี ทาคำทรง แม่ของนายณัฐวุฒิ ทาคำทรง (น้องเติ้ล) 1 ใน 13 คนที่เคยติดอยู่ในถ้ำหลวง
- นายนคร วีระประวัติ อดีตนักแสดงอาวุโส
- นายศิริศักดิ์ คชพัชรินทร์ นักธุรกิจสร้างภาพยนตร์
- นายกุลเทพ นฤหล้า นักธุรกิจสร้างภาพยนตร์
SK GLOBAL ได้คว้าลิขสิทธิ์สร้างหนัง “แต่เพียงผู้เดียว” และ “ตลอดชีพ”
ต่อมาในวันที่ 7 มีนาคม 2561 มีการรายงานออกมาว่า พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค ในฐานะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ เปิดเผยว่าบริษัท SK GLOBAL ENTERTAINMENT บริษัทผลิตภาพยนตร์ ที่มีผลงานชื่อดังอย่าง Crazy Rich Asians จะได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลของ 13 สมาชิกทีมหมูป่าอะคาเดมี่ที่เคยติดอยู่ในถ้ำหลวงแบบ “ตลอดชีวิต” และ ได้สิทธิ์เผยแพร่ “แต่เพียงผู้เดียว” โดยในสัญญาระบุว่าทั้ง 13 คนจะได้รับเงินไม่ต่ำกว่าคนละ 3 ล้านบาท
ซึ่งหลังจากนี้ สื่อมวลชนที่ต้องการสัมภาษณ์ 13 สมาชิกทีมหมูป่าจะต้องติดต่อผ่านบริษัทนี้เท่านั้น และคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์มีหน้าที่เพียงให้คำปรึกษาว่าประเด็นที่จะขอสัมภาษณ์มีความเหมาะสมหรือไม่
โดย SK GLOBAL ENTERTAINMENT เป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และการได้ลิขสิทธิ์ครั้งนี้ทางบริษัทดังกล่าวจะเผยแพร่ซีรีส์ลงแพลตฟอร์ม Netflix ต่อไป
22 มี.ค. นี้ เตรียมเซ็น MOU ร่วมกัน
ล่าสุดมีรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจาก นายศิริศักดิ์ คชพัชรินทร์ รองโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ ระบุว่าได้มีการติดต่อไปยังบริษัท SK GLOBAL ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อยืนยันให้รับทราบว่าได้รับลิขสิทธิ์ตามที่ยื่นข้อเสนอมาแล้ว
โดยนายศิริศักดิ์คาดการณ์ว่าการลงนามระหว่าง บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด และบริษัท SK GLOBAL การลงนาม MOU และวางเงินค้ำประกันจะเกิดขึ้นภายในวันที่ 22 มีนาคมนี้ โดย SK GLOBAL จะบินจากสหรัฐฯ มาที่ไทยเพื่อลงนามในครั้งนี้อีกด้วย
ส่วนรายละเอียดวันและเวลาที่ชัดเจนต้องรอคำยืนยันจากคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ อีกครั้ง ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนเซ็นสัญญาและจัดสร้างภาพยนตร์ต่อไป
ที่มา ไทยโพสต์, สำนักข่าวอิศรา, บีบีซีไทย, Deadline และสำนักข่าวไทย