ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องน่าสนใจมากสำหรับ Slice แอพพลิเคชันที่ถูกการันตีว่ามีประโยชน์เหลือเกินต่อวงการอีคอมเมิร์ชที่สามารถระดมทุนจากยักษ์ใหญ่ค้าปลีกทั่วโลกได้มากกว่า 23 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 736 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งของรายชื่อผู้สนับสนุนแอพพลิเคชันนี้คือเจ้าพ่อออนไลน์แดนอาทิตย์อุทัย Rakuten, ผู้ให้บริการระบบร้านออนไลน์ Lightspeed และอื่นๆ
เหตุที่ทำให้แอพพลิเคชัน Slice ได้รับการชื่นชมว่ามีประโยชน์ต่อวงการอีคอมเมิร์ชคือคุณสมบัติมากมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขนานาปัญหาซึ่งเกิดจากการช้อปปิ้งออนไลน์ ตัวอย่างเช่น กรณีที่ลูกค้าติดภารกิจจนไม่ได้รอรับสินค้าที่ถูกส่งถึงบ้าน เนื่องจากหลงลืมกำหนดวันที่สินค้าจะถูกส่งมาที่หน้าประตู หรือกรณีใบเสร็จรับเงินดิจิตอลที่อาจทำให้ลูกค้าสับสนได้ง่าย ทั้งหมดนี้แอพพลิเคชัน Slice อาสาจัดการได้อย่างน่าประทับใจ
ความที่ Slice สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถจัดการวิถีการช้อปปิ้งออนไลน์นี้เองที่ทำให้ Slice สามารถระดมทุนครั้งใหม่มูลค่ามากกว่า 23 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวบริการในปี 2011 หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้ Slice สามารถพัฒนาความสามารถใหม่เพื่อช่วยให้ชาวออนไลน์สามารถซื้อสินค้าบนโลกดิจิตอลได้สะดวกขึ้น
หนึ่งในความสามารถยอดนิยมของ Slice คือการเปิดให้ผู้ใช้ได้รับ push notification หรือข้อความเตือนที่แสดงว่าสินค้าซึ่งถูกสั่งไว้นั้นถูกร้านค้าจัดส่งแล้ว ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้วางแผนการรับสินค้าได้สะดวกขึ้น อีกความสามารถหนึ่งคือการเรียกดูใบเสร็จซื้อสินค้าออนไลน์ทุกใบจากในกล่องอีเมล และแสดงเป็นประวัติการซื้อสินค้าได้อย่างครบถ้วน ซึ่งที่ผ่านมา Slice มีส่วนร่วมจัดการการซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่า 90 ล้านชิ้นนับตั้งแต่ให้บริการ ซึ่งคิดเป็นตัวเลขมูลค่าทรานเซ็คชันกลมๆ มากกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
Scott Brady ซีอีโอของ Slice ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว VentureBeat ว่าลูกค้านั้นมีข้อมูลการซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมดอยู่ในอีเมลแล้ว แต่หน้าที่ของ Slice คือการนำข้อมูลเหล่านั้นมาจัดเรียงใหม่และทำให้ข้อมูลนั้นมีประโยชน์มากขึ้น จุดนี้ซีอีโอ Slice ยอมรับว่าเขาและทีมงานสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ขึ้นมาได้จากข้อมูลชุดเดียวกัน
ไม่เพียงคุณสมบัติอำนวยความสะดวก แอพพลิเคชัน Slice ยังใช้จุดเด่นของความเป็นเครือข่ายสังคม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและแบ่งปันสินค้าน่าสนใจได้ง่าย เบื้องต้นคุณสมบัตินี้ยังจำกัดที่สินค้าประเภทหนังสือ โดย Slice เปิดให้บริการชื่อ Bookshelf ซึ่งทำให้ผู้ใช้ค้นหาและแชร์หนังสือกับเพื่อนฝูงได้สะดวก
สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ Slice เปิดเผยว่าได้รับทุนส่วนใหญ่จาก Rakuten ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ชรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น นอกนั้นเป็นทุนจากบริษัทหน้าใหม่ชื่อ Russia Partners และ NPD Group ขณะที่ผู้ให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้คือ Lightspeed Venture Partners, DCM, และ Innovation Endeavors ซึ่งหากนับรวมการระดมทุนรอบใหม่ Slice สามารถระดมทุนได้แล้วทั้งสิ้น 32.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ท่ามกลางพนักงานราว 50 คน
ที่มา: VentureBeat