หลังได้รับความนิยมจากการเป็นแอปพลิเคชันขวัญใจวัยทีน ด้วยฟังก์ชันการส่งข้อความ และภาพที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ล่าสุด Snapchat เจอปัญหาใหญ่เข้าอย่างจัง เมื่อข้อมูลผู้ใช้ Snapchat กว่า 4.6 ล้านรายถูกเปิดเผยอย่างแพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต
โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กลุ่มแฮ็คเกอร์ ” Lightcontact” ได้เผยข้อมูลผู้ใช้ Snapchat กว่า 4.6 ล้านราย ซึ่งได้แก่ username และ หมายเลขโทรศัพท์ บน Reddit และ และเว็บไซต์ SnapchatDB.info ซึ่งภายหลังได้ถูกระงับการเผยแพร่ แต่ยังคงไร้วี่แววการให้ข้อมูลตอบโต้จากทาง Snapchat มีเพียงแค่โปรแกรมบนเว็บอย่าง GS Lookup และ Snapcheck ที่ทางโปรแกรมเมอร์ของ Snapchat พัฒนาออกมาเพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบสถานะข้อมูลของพวกเขาว่าถูกเปิดเผยด้วยหรือไม่?
ซึ่งผู้ใช้หลายๆ คนรายงานว่าพบข้อมูลของตนจากการรั่วไหลของข้อมูลในครั้งนี้ นอกจากนี้นักข่าว Wall Street Journal ยังยืนยีนว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลจริง เนื่องจากพวกเขาได้พบข้อมูลของพวกเขาจากฐานข้อมูลที่ถูกนำมาเปิดเผยเช่นกัน
โดยก่อนนี้ Gibsonsec บริษัทตรวจสอบความปลอดภัยทางข้อมูลได้เตือน Snapchat เรื่องความเปราะบางของฐานข้อมูลไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังได้รับคำเตือน Snapchat ยังคงเพิกเฉย จน Gibsonsec ได้เขียนบล็อกเพื่อเตือน แต่ทาง Snapchat ก็ยังคงเพิกเฉยต่อคำเตือนเหล่านั้นเช่นกัน
ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาดเป็นอย่างมาก Chris Soghoian, a security and privacy researcher แห่ง the American Civil Liberties Union ได้พูดถึงพฤติกรรมการเพิกเฉยของ Snapchat ว่า แม้พวกเขาจะเป็นบริษัทเล็กๆ เมื่อเทียบกับ Google หรือ Twitter แต่นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ลงทุนสร้างความปลอดภัยด้านข้อมูลมากเท่าที่ควร
โดย Robbie Trencheny ผู้พัฒนา GS Lookup page แอปพลิเคชันเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ Snapchat ตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวได้พูดถึงระบบรักษาความปลอดภัยของ Snapchat ว่าสามารถผ่านเข้าไปได้ไม่ยากเลย
แต่ทั้งนี้ข้อมูลที่รั่วไหลออกมานั้นยังคงเป็นข้อมูลที่สร้างความเสียหายต่อผู้ใช้ได้ไม่มากนัก Bob Sullivan, author and consumer privacy expert มองว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงชื่อผู้ใช้ และหมายเลขโทรศัพท์ หาใช่หมายเลขประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขบัตรเครดิต
สิ่งที่อาจเกิดคือมีบุคคลอื่นได้หมายเลขโทรศัพท์ของคุณไป หรือกรณีที่แย่กว่าคือผู้ใช้หลายๆ คน นิยมใช้ username และ password เดิมๆ บนอีเมล การได้ข้อมูลอย่าง username และ เบอร์โทรอาจทำให้บุคคลอื่นสามารถตามหาตัวพวกเขาได้ว่าพวกเขาคือใคร
แต่อย่างไรก็ตามการยกเลิกบริการการใช้งาน Snapchat นั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก พวกเขาทำได้แค่เปลี่ยน username หรือ password ของพวกเขาบนเว็บไซต์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ เท่านั้น ท่านผู้อ่านท่านใดที่ใช้บริการ Snapchat อย่าลืมเช็คข้อมูลของตัวเองกันด้วยนะคะ
ที่มา : Wall Street Journal
ภาพ : styleseendaily