ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอสถิติการใช้งานโซเชียลมีเดียในโลกตะวันตกอย่างสหรัฐฯและอังกฤษกันมาบ่อยแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนมาเป็นประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียของเรากันดูบ้างว่า ปัจจุบันสิงคโปร์มีแนวโน้มในการใช้งานโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปในทิศทางไหน ซึ่งเป็นกรณีศึกษาให้เราเข้าใจถึงการใช้งานโซเชียลมีเดียของประเทศในเอเชียเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เว็บไซต์ Techgoondu.com ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานโซเชียลมีเดียในสิงคโปร์ พบว่าสิงคโปร์นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่โซเชียลมีเดียได้รับความนิยมและมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ (2013) จำนวนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 74% ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมในปี 2012 ที่ผ่านมาราว 5.9%
ปัจจุบันโซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลสำคัญต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า โดย 46.2% ของผู้บริโภคจะเสิร์ชหาข้อมูลบนโซเชียลมีเดียก่อนการซื้อสินค้า รวมไปถึงอีก 51.2% ยังใช้โซเชียลมีเดียเพื่อช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าด้วยเช่นกัน
เว็บไซต์ Techgoondu.com ได้สำรวจถึงการงานใช้โซเชียลมีเดียในสิงคโปร์รวม 5 ช่องทาง ได้แก่ Facebook, Twitter, Youtube, Linkedin และ Pinterest โดยระบุว่า ทั้ง 5 ช่องทาง Youtube เป็นโซเชียลมีเดียที่มีจำนวนผู้ใช้งานและครองส่วนแบ่งตลาด (Penetration Level) สูงสุดเป็นอันดับ 1 โดยมีจำนวนผู้ใช้งานอยู่ที่ 3.93 ล้านคนและครองส่วนแบ่งตลาด 76% รองลงมาเป็น Facebook ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานอยู่ที่ 3.22 ล้านคนและมีส่วนแบ่งตลาด 62.2% ตามมาด้วย Twitter (2.56 ล้านคน/ ส่วนแบ่งตลาด 49.4%) Linkedin (520,000 คน/ ส่วนแบ่งตลาด 10.1%) และ Pinterest (96,000 คน/ ส่วนแบ่งตลาด 1.7%)
ถึงแม้ว่า Youtube จะเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยม เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานและครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด แต่กลับพบว่าชาวสิงคโปร์มีชั่วโมงในการใช้งานต่อเดือนเพียงแค่ 11.6 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่า Facebook ที่มีชั่วโมงในการใช้งานสูงสุดมาเป็นอันดับหนึ่ง 19.6 ชั่วโมง ตามมาด้วย Twitter (7.7 ชั่วโมง) Linkedin (10.1 ชั่วโมง) และ Pinterest (1.7 ชั่วโมง)
และเมื่อลองสำรวจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในการใช้งานโซเชียลมีเดียแต่ละประเภทก็พบว่า เป็นการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้น โดยผลการสำรวจพบว่า มีการใช้งาน Facebook ผ่านโทรศัพท์มือถือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 64.4%
ที่มา: infographics.sg