ในยุคที่ผุ้บริโภคเริ่มมีความคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้ประกอบการค้าปลีก หรือแบรนด์ต่างก็หันมาพัฒนาช่องทางการสื่อสาร และช่องทางการจับจ่ายสินค้าให้แก่ผู้บริโภค แม้โซเชียลเน็ตเิร์กจะทำให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ แต่โซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นกลับไม่สามารถสร้างยอดขายให้แก่พวกเขาได้มากอย่างที่คิด
จากข้อมูลของ the e-tailing group เมื่อไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาพบว่า 94% ของผู้ค้าปลีกที่ขายสินค้าผ่านหน้าร้าน และผ่านเว็บไซต์ต่างก็ Facebook Page ของพวกเขา และอีก 81% เผยว่าพวกเขามีปุ่มกด Like บนผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่พวกเขาจำหน่ายบนเว็บไซต์ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าหรือผู้สนใจแบ่งปันสินค้าที่่พวกเขาสนใจไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กที่พวกเขาใช้งานได้ นอกจากนี้นักการตลาดกลุ่มดังกล่าวยังใช้งาน Pinterest และ Twitter ด้วยเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากันคือ 81%
แต่แม้ว่าพวกเขาพยายามสื่อสารกับกลุ่มแฟนๆ ของพวกเขาผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กช่องทางต่างๆ มากแค่ไหน แต่จากผลการวิจัยพบว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นมีส่วนช่วยในการสร้าง Traffic ไปยังหน้าเว็บซไต์ของพวกเขาน้อยมาก กว่า 1 ใน 4 ของผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้ง online และ offline เผยว่ายอด Traffic ของพวกเขาน้อยกว่า 1% มาจากโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ
ด้วยบทบาทการสร้างยอด Traffic ของโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ต่ำ โซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นยิ่งมีบทบาทในการสร้างยอดขายของผู้ประกอบการกว่าเดิม โดย 43% ของผู้ประกอบการค้าปลีกเผยน้อยกว่า 1% ที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ซึ่งมาจากโซเชียลเน็ตเวิร์กจะทำการจับจ่ายสินค้าบนเว็บไซต์ของพวกเขา
นอกจากนี้Custora ยังได้เผยข้อมูลที่มีความสอดคล้องกันอีกว่าผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อไตรมาสที่ 1 ปี 2014 ที่ผ่านมาสามารถคิดได้เพียง 1% จากยอดการสั่งสินค้าในธุรกิจ ecommerce ในสหรัฐฯ อีกด้วย
ที่มา : eMarketer
ภาพ : onbile