การเขียนเรูซเมหนึ่งในทักษะที่คนหางานจำเป็นต้องทราบและต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้งานในฝัน แต่ในอีก 5 -10 ปีหลังจากนี้ ทักษะดังกล่าวอาจเริ่มไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไปเมื่อนายจ้างสามารถใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง LinkedIn ในการค้นหาผู้ร่วมงานที่มีทักษะและลักษณะอย่างที่พวกเขาต้องการได้
ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาจาก Misericordia University ได้เข้าร่วมการอบรม เพื่อศึกษาถึงความสำคัญของการสร้างโปรไฟล์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อการทำงานแบบมืออาชีพอย่าง LinkedIn เพื่อให้พวกเขาสามารถหาสถานที่ฝึกงาน และสามารถหางานที่พวกเขาชื่นชอบได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Jill Pante จาก the Middle Atlantic Career Counseling Association ได้แนะนำเทคนิคต่างๆ ในการสร้างโปรไฟล์บน LinkedIn ให้น่าสนใจมาพอที่พวกเขาจะสามารถหางานที่น่าสนใจได้
นอกจากนี้เธอยังได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า กว่า 75% ฝ่ายบุคคลจะทำการตรวจสอบโปรไฟล์ของผู้สมัครงานบน และโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้เธอเชื่อว่าในการสมัครงาน หลักฐานชิ้นที่สำคัญชิ้นหนึ่งคือโปรไฟล์บน LinkedIn อีกด้วย
เนื่องจาก LinkedIn นั้นเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่นอกจากจะทำให้คุณสามารถติดต่อบุคคลอื่นๆ ได้แล้ว คุณยังสามารถบันทึกและจำแนกกลุ่มผู้ติดต่อได้อีกด้วย อีกทั้ง LinkedIn นั้นยังเปิดโอกาสให้คุณเข้สร่วมกลุ่มต่างๆ และติดตามองค์กรต่างๆ ได้อีกด้วย จึงทำให้ LinkedIn เปรียบเสมือนเรซูเม่แบบออนไลน์ของคุณ
นอกจากนี้ Jill Pante ยังได้เตือนนักศึกษาในเรื่องของการโพสต์เนื้อหาบนโซเชียลเน็ตเวิร์กแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Facebook หรือ Twitter อีกด้วย ว่าพวกเขาควรระมัดระวังและใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ของพวกเขาให้มากๆ โดยเธอกล่าวว่าพวกเขาจำเป็นต้องระวังเรื่องการแชร์บางสิ่งที่มากเกินความจำเป็น มีเนื้อหาบางประเภท และภาพบางภาพที่ฝ่ายบุคคลเองก้ไม่ได้ต้องการรับรู้เกี่ยวกับตัวคุณ ซึ่งเธอได้แนะนำว่าผู้หางานจำเป็นต้องขจัดโพสต์ต่างๆ ทั้งสเตตัส หรือภาพที่พวกเขาคิดว่าจะทำให่ภาพลักษณ์ของพวกเขาเสียหายในสายตาฝ่ายบุคคลออกบ้างเป็นระยะๆ
เพราะ 70% ของฝ่ายบุคคลเผยว่าพวกเขาปฏิเสธผู้สมัครงานหลายๆ รายหลังพวกเขาพบข้อมูล เชิงลบอื่นๆ เกี่ยวกับผู้สมัครงานบนสื่อออนไลน์ โดย Jill Pante เผยว่าการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในปัจจุบันนั้นก็เหมือนกับการสร้างแบรนด์ การทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นมืออาชีพ แม้โซเชียลเน็ตเวิร์กจะมีไว้เพื่อใช้ติดต่อกับบุคคลอื่นๆ ก็ตาม นอกจากนี้เธอยังได้กล่าวเสริมว่า ในการสมัครงานหลายๆ ครั้งฝ่ายบุคคลอาจขอ username และ password บน Facebook หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ ของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาก็ได้ เนื่องจากข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลส่วนตัว ไม่ควรเปิดเผยให้บุคคลอื่นทราบ ฉะนั้นใครว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้ผู้ใช้เสียการเสียงาน งานนี้ต้องคิดใหม่ เพราะหากใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างถูกวิธีและเกิดประโยชน์นั้น โซเชียลเน็ตเวิร์กอาจทำให้ผู้ใช้ได้การ ได้งานที่ดีเลยทีเดียวก็ได้นะคะ
ที่มา : thetimes-tribune
ภาพ : marsdd